"สารวัตรแรมโบ้" เดือด ยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานรัฐ คดีตู้ห่าวไม่มีความคืบหน้า ไม่มีผล ไร้วี่แวว ชวนสงสัยมีผลประโยชน์
เดินหน้ายื่นหนังสือถึง ฯพณฯ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย
พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทยไทย ฉายา "สารวัตรแรมโบ้" ตำรวจมือปราบพระกาฬ อดีตนายตำรวจมือตงฉินมือสะอาดเจ้าของฉายา ที่เคยเป็น อดีตสารวัตรกองปราบ นครบาล และผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งทำคดีดังๆ ระดับชาติและนานาชาติมาแล้วมากมาย เช่น .คดีจ้างวานฆ่าคนสนิทหลวงพ่อคูณ คดีฆ่าถ่วงน้ำตระกูลตั้งฮั้วคดีฆ่าเผา 5 ศพตระกูลหลิมบุญเจียมปี 2537 จับมือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติชาวเยอรมัน 2 คน จับคนร้ายจำนวน 3 คนในคดีเรียกค่าไถ่นักศึกษาสาว และยังมีคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก
รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับรัฐบาลจีน อาทิ 1. เคยทำงานร่วมกับนาย จาง หมิง หรือนายไมเคิล ผู้การกองปราบจากเกาะไหหลำร่วมกันสืบสวนจับกุมนายจาง ยาใฉ มือปืนรับจ้างข้ามชาติ นักฆ่า 100 ศพจากเมืองจีน ครั้งสุดท้ายได้ใช้อาวุธปืนสังหารนักธุรกิจ 3 คน บนเกาะไหหลำในร้านขายยาเมื่อปี พ.ศ. 2536 นำตัวส่งรัฐบาลจีน ดำเนินคดีที่เมืองไหโข่ว เกาะไหหลำ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
2. ได้ร่วมจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารชาติ 3 คน ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยักยอกทรัพย์จำนวนเงิน ประมาณ 50 ล้านบาท ที่ธนาคารเมืองกว่างโจว เมื่อปี พ.ศ. 2536 นำตัวส่งดำเนินคดี 2 คนแรก อีก 1 คนผูกคอตายในห้องขังที่กองปราบปราม
3. ได้ช่วยจับกุมคนร้ายปล้นทรัพย์ เรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2536 ที่กรุงเทพมหานคร
4. ยังมีคดีที่ปล้นชิงทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนอีกหลายคดีที่พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช ได้ช่วยเหลือนักธุกิจชาวจีนที่ถูกปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดี
หลังยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานรัฐ ได้แก่ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คดีตู้ห่าวก็ยังไม่คืบหน้า ไม่มีผล ไร้วี่แวว ยกเว้นกระทรวงยุติธรรมแห่งเดียวที่กล้าทำการยึดทรัพย์แก๊งค์คนจีนสีเทากว่าหมื่นล้านบาท อันนี้ก็ต้องขอชื่นชม
วันที่ 20 ธันวาคม 2565 พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช "สารวัตรแรมโบ้" ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทยไทย พร้อมด้วยนายอำนวย โกวิยุติธรรมทธรรมกรณ์ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ จึงได้เดินทางไปที่สถานฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากสันติบาลและสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางมาร่วมสังเกตการณ์
สืบเนื่องจากคดีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมที่ผับจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา ถูกแจ้งข้อหา 1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2. ร่วมกันค้ายาเสพติด 3. ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย 4. ร่วมกันฟอกเงิน จีงขอความร่วมมือให้ทางรัฐบาลส่งชุดสืบสวนสอบสวนที่ประจำสถานฑูตจีนในประเทศไทยหรือส่งมาจากประเทศจีน ให้สืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน ประสานมาทางมูลนิธิฯ หรือกระทรวงยุติธรรมโดยด่วนที่สุด เพื่อนำตัวขบวนการอาชญากรข้ามชาติคนจีนสีดำสีเทามาดำเนินการถึงที่สุดในประเทศ รวมทั้งครอบครัวของคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย โดยนำเครื่องมือพิเศษเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเชื่อว่าจะจับได้หมดในประเทศไทยเร็วที่สุด รวมถึงให้รัฐบาลจีนออกกฎหมายให้ลงโทษแบบรุนแรงที่สุดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตและยึดทรัพย์สินที่ฉ้อโกงมาจากคนไทยในประเทศไทยให้ส่งทรัพย์สินคืนให้ประเทศไทย ส่วนทรัพย์สินที่ฉ้อโกงมาจากคนจีนให้ส่งทรัพย์สินคืนประเทศจีน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น