ททท. ร่วมต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สายการบิน Saudia Airlines เที่ยวบิน SV846 จากเมืองเจดดา - กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย - กรุงเทพฯ เที่ยวบินแรกในรอบ 32 ปี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย Mr. Almusaed Musaed Muhammed, Assistant Vice President of International Regions สายการบินซาอุดีอาระเบีย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายเดชา ปิ่นอารีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการผู้โดยสาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของ สายการบิน Saudia Airlines เที่ยวบิน SV846 บินตรงจากเมืองเจดดา - กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร นับเป็นนิมิตหมายอันดีในการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มตลาดซาอุดีอาระเบีย เมื่อเย็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565
นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวว่า เที่ยวบินปฐมฤกษ์ SV846 สายการบิน Saudia Airlines บินตรงจากเมืองเจดดา
- กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 18.05 น.
นำคณะนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จำนวน 71 คน
นับเป็นการเปิดเส้นทางบินครั้งแรกในรอบ 32 ปี จากกรุงริยาด
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย - กรุงเทพฯ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
พร้อมกันนี้ ททท. ได้เตรียมพร้อมกิจกรรมการต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ อาทิ
ของที่ระลึก การแสดงทางวัฒนธรรมไทย (โขน ตอนยกรบ) และอุโมงค์น้ำ (Water
Salute) เพื่อแสดงมิตรไมตรีและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยครั้งนี้ด้วย
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เผยว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างสายการบิน Saudia Airlines จะทำการบินมายังประเทศไทยจำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์-พุธ-ศุกร์) ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง (Boeing) 789 จำนวน 298 ที่นั่ง เริ่มเปิดเส้นทางบินตรง ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ซึ่ง ททท. คาดว่าเที่ยวบินตรงนี้ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จในการส่งเสริมการเดินทางมายังประเทศไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนเป็นโอกาสต่อยอดในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ยุโรปและตะวันออกกลาง ไม่เพียงเท่านั้น ททท. จะผลักดันแคมเปญสื่อสารตลาดต่างประเทศ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters ที่สอดคล้องกับโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy) โดยเสนอมุมมองใหม่ผ่านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก คือ สุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) ทะเล (Beaches) และช้อปปิง (Shopping) เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ และแลกเปลี่ยนการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจะมุ่งเน้นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง (Ease of Travelling) พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Millennials) กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (First Visit) กลุ่มรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) และกลุ่มครอบครัว (Family) นอกจากนี้ ททท.จะหารือกับพันธมิตร ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรูปแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) อาทิ การจัดกิจกรรม Tradeshow Roadshow และ Consumer Fair รวมทั้ง Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตร มอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมากยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย
ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการขับเคลื่อนและขยายฐานนักท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยสถิติปี 2562 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย
เดินทางมาประเทศไทย 36,783 คน สร้างรายได้กว่า 3,220.15
ล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มรักษาพยาบาล
มีพฤติกรรมและรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่
แหล่งท่องเที่ยวชาดหาด-ชายทะเล การเข้ารักษาพยาบาลหรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical
และ Health and Wellness) และกิจกรรมช้อปปิง
และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พัทยา
พังงา กระบี่ เกาะสมุย และเชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น