วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564

ทีเส็บ จับมือ 13 สมาคม เตรียมกระตุ้นไมซ์ให้พ้นภัยโควิด 19

ทีเส็บ จับมือ 13 สมาคม เตรียมกระตุ้นไมซ์ให้พ้นภัยโควิด 19

ทีเส็บจัดประชุมร่วมกับ 13 องค์กรไมซ์เอกชนมีมติร่วมกันเร่งกระตุ้นไมซ์ในประเทศช่วยผู้ประกอบการและชุมชน เผยสรุปการดำเนินงาน 6 ด้าน พร้อมต่อยอดโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า และสนับสนุนการฝึกอบรมรองรับไมซ์ในอนาคต

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ และภาคีภาคเอกชน 13 สมาคม ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (ADT) สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) (TICA) สมาคมการแสดงสินค้าไทย (TEA) สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA) สมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์ธุรกิจบันเทิงไทย (TECNA) สมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA) เครือข่ายจัดตั้งสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (CAPT) สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA)  เร่งร่วมหารือแสวงหามาตรการที่เหมาะสมในการปกป้องอุตสาหกรรมไมซ์ในระยะเฉพาะหน้า และเตรียมพร้อมแผนงานในระยะยาว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในรอบใหม่นี้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

             ที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะให้ความสำคัญการกระตุ้นให้เกิดการจัดกิจกรรมไมซ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยยึดมาตรฐานความปลอดภัยสาธารณสุข และส่งเสริมให้เกิดธุรกิจในพื้นที่ต่าง ๆ กระจายสู่ทั่วประเทศ

         นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า หนึ่งในโครงการหลักที่จะดำเนินงาน คือ ต่อยอดโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่าสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นการจัดกิจกรรมไมซ์และการเดินทางในประเทศ โดยใช้ไมซ์เป็นเครื่องมือช่วยบรรเทาปัญหาของประเทศ ที่ทีเส็บและภาคีร่วมกันทำเมื่อปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างดีมาก กล่าวคือมีองค์กรภาคเอกชนจัดกิจกรรมไมซ์มากถึง 1,049 กลุ่ม มีการเดินทางของประชาชน 62,000 คนไปในกว่า 50 จังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาภายในเวลาสั้น ๆ ความร่วมมือของบริษัท ห้างร้าน ช่วยกระจายเม็ดเงินไปไม่นอยกว่า 130 ล้านบาทไปในทั่วภูมิภาค ทำให้เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะไปต่อได้ และเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม โดยเบื้องต้นจะปรับใช้แผนงบประมาณภายในสำหรับโครงการนี้ประมาณ 20 ล้านบาท

ผลสรุปของการประชุมร่วม แบ่งการดำเนินงานเป็น 6 ด้าน ประกอบด้วย

        1. การส่งเสริมตลาดเพื่อผู้ประกอบการ กระตุ้นการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ สานต่อโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่าต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สนับสนุนงบประมาณขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ปรับเกณฑ์ขอรับการสนับสนุนให้เข้าถึงง่าย สะดวกรวดเร็วขึ้น และศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงกับโครงการอื่นๆ ของรัฐ ทั้งยังคงสนับสนุนผู้ประกอบการในการเตรียมความพร้อมสถานที่ตามมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย (Safety & Hygiene) และการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะกลุ่ม 

2. กระตุ้นกิจกรรมในภูมิภาคเพื่อฟื้นฟูท้องถิ่น โดยให้เอกชนจัดทำแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกิจกรรมไมซ์ประเภทต่างๆ และนำเสนอของบประมาณผ่านทีเส็บ เน้นให้ภาคเอกชนบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยแบ่งการจัดทำโครงการเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มการแสดงสินค้า (Exhibition) กระจายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ การจัดอีเวนต์และเทศกาลระดับพื้นที่ โดยเน้นกระตุ้นในพื้นที่ที่มีความพร้อมในการจัดงาน การจัดอีเวนต์และเทศกาลขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคหรือระดับประเทศที่ต่อเนื่องมีระยะเวลาหลายเดือน เพื่อส่งเสริมการเดินทางข้ามภูมิภาค 

3. การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยสาธารณสุขของงาน โดยทีเส็บจะเน้นประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดงานอย่างปลอดภัย โดยส่งเสริมมาตรฐานและความปลอดภัย (Safety & Hygiene) ในการจัดงานและสถานที่จัดงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางไมซ์และสาธารณชนในวงกว้าง ขณะเดียวกันจะผลักดันให้มีการกำหนดแผนฟื้นฟูร่วมกัน เช่น การพัฒนาต่อยอดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมไมซ์ทุกประเภท

4. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมโดยหน่วยราชการ โดยผลักดันให้มีนโยบายกระตุ้นการจัดประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดงานในวันธรรมดา เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและภูมิภาค พร้อมมีการติดตามผลเพื่อการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเสนอตัวเป็นเจ้าภาพดึงงานและการประชุมระดับนานาชาติที่มีความสำคัญเข้ามาจัดในประเทศไทย 

       5. ดึงงานไมซ์ในอนาคตเข้าสู่ประเทศไทย เช่น งานประชุมนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนการเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติของไทย ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาเครือข่ายตัวแทนการตลาดและพันธมิตรเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการทำการตลาด ดึงงาน และสร้างงานต่างๆ ในแต่ละอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาล

6. การสนับสนุนในระดับนโยบายจากรัฐบาล เช่น จัดงบประมาณให้กับภาคเอกชนไปดำเนินการจัดกิจกรรมการประชุมสัมมนา หรืองานแสดงสินค้า การประกาศให้หน่วยงานภาครัฐจัดการประชุมสัมมนา หรือการผ่อนคลายมาตรการด้านการจัดซื้อจัดจ้างของทางภาครัฐ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อยจะได้มีโอกาสในการจ้างงานมากขึ้น โดยทีเส็บเป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำเสนอกับรัฐบาลตามลำดับขั้นตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป่อเต็กตึ๊งเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาส่งมอบไออุ่น แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ชาวเชียงราย ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร

ป่อเต็กตึ๊งเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาส่งมอบไออุ่น แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ชาวเชียงราย ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร          ...