Teibto (เติบโต) โชว์เจ๋ง Solution Provider ไทยเพียงเจ้าเดียวที่คว้าTop Value Partner Award (ASEAN) FY20 จาก Oracle NetSuite และเป็นที่หนึ่งในอาเซียน
นางสาวอภิษฎา เดมีย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Teibto Co., Ltd. หรือเรียกง่ายๆ ว่า “เติบโต” ได้เปิดเผยว่า บริษัท Teibto (https://teibto.com) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการ Solution Provider สัญชาติไทยจำหน่ายซอฟต์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite, Best First World Class Cloud ERP) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์เป็นรายแรก ที่มีประสบการณ์มากว่า 12 ปี ให้แก่องค์กรธุรกิจทั่วไป โดยรองรับงานด้านการบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า (Customer Relationship Management หรือ CRM), งานด้านการบริหารทรัพยากรขององกรค์ (Enterprise Resource Planning หรือ ERP), และระบบอีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) โดยสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ (Cloud) ที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเหมาะกับธุรกิจของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการขยายงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สำหรับในปีนี้บริษัทได้รับรางวัล Top Value Partner Award (ASEAN) FY20 จาก Oracle NetSuite ในฐานะที่เป็น Solution Provider ที่ให้บริการและจัดจำหน่าย Software Oracle NetSuite โดยสร้างรายได้สูงที่สุดในอาเซียน ซึ่งในอาเซียนเราเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ทั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะคว้ารางวัลนี้มาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกณฑ์การตัดสิน และยังรวมไปถึงการบริหารยอดขายให้ได้ตามเป้าอีกด้วย และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทก็เพิ่งได้รับรางวัล Five Star Award 2020 จาก Oracle NetSuite ซึ่งรางวัลนี้บริษัทได้รับถึง 2 ปีซ้อน และเป็นบริษัทเดียวใน South East Asia ที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะฉะนั้นทั้ง 2 รางวัลนี้จึงช่วยการันตีได้ว่า บริษัทมีการบริหารงานและให้บริการที่ดีเยี่ยม อีกทั้งการ Implementation และการให้บริการหลังการขายที่ประสบผลสำเร็จ จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการกับบริษัทของเราในอนาคต
สำหรับครึ่งปีที่ผ่านมาในภาวะที่เรากำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์โรคระบาด โควิด 19 นั้นถือว่า บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมากเพราะเนื่องด้วยตัวธุรกิจของเรา ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางด้านซอฟท์แวร์นั้นเป็นงานที่เน้นระบบออนไลน์เป็นหลักอยู่แล้ว สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นระบบคลาวด์ จึงได้รับผลกระทบน้อยมาก
และหลังจากนี้บริษัทก็จะเริ่มเดินหน้า บุกตลาดเวียดนามอีกครั้งหลังจากปลดล็อคสถานการณ์โควิด15 เฟส 5 ทั้งนี้บริษัทได้เปิดสาขาที่เวียดนามมาแล้วเป็นเวลา 2 ปีกว่า ถือว่าได้รับผลตอบรับดีมาก และมี อัตราการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ตลาดเวียดนามถือว่าไปได้ดี และยังมีผู้ประกอบการไทยที่อยากไปลงทุนในเวียดนาม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของเราอีกด้วย ในปีนี้เราได้เพิ่มการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ คาดว่าเราจะโตจากปีที่แล้วมากกว่า 40%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น