วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

สวิตต์ ไดมอนด์” ชูหน้ากากอนามัย KN95 แบรนด์ “TarMonud” (ตาโมนุต) พร้อมส่งมอบ mask 3 ชั้น คุณภาพ KN95 ให้แก่ “มูลนิธิเมาไม่ขับ” 15,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายสู่เครือข่ายและประชาชน

สวิตต์ ไดมอนด์” ชูหน้ากากอนามัย KN95 แบรนด์ “TarMonud” (ตาโมนุต)
พร้อมส่งมอบ mask 3 ชั้น คุณภาพ KN95 ให้แก่ มูลนิธิเมาไม่ขับ” 15,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายสู่เครือข่ายและประชาชน


                เนื่องจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีหน้ากากอนามัยออกมาจำหน่ายจำนวนมาก มีทั้งผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ บริษัท สวิตต์ ไดมอนด์ จำกัด เจ้าของหน้ากากอนามัย KN95 แบรนด์ “TarMonud” (ตาโมนุต) ระบุว่า ตามท้องตลาดยังคงมีหน้ากากอนามัยที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคนไทยควรต้องหันมาให้ความใส่ใจต่อการเลือกหาหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานมาใช้อย่างจริงจัง เพื่อให้การป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐาน KN95 คือ หนึ่งในหน้ากากอนามัยมาตรฐานระดับโลก



คุณภัคนภัสส์ จันทร์เพียร ประธานบริหาร คุณยวนใจ วาทยะกร กรรมการผู้จัดการ และนายสุเฑพ ศิลปงาม ประธานที่ปรึกษา บริษัท สวิตต์ไดมอนด์ จำกัด จึงได้จัดงาน พิสูจน์ทราบ หน้ากากอนามัย และศิลปะบนหน้ากาก โดยมีการชำแหละ ผ่าหน้ากากอนามัยให้เห็นกันแบบเต็มตา เพื่อพิสูจน์ทราบว่า....หน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานสากลนั้นมีลักษณะและคุณสมบัติอย่างไรในการป้องกันเชื้อโรค โดยมี นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับสายเซียร์ ดาราเข้าบทบาท ที่โด่งดังจากสโลแกนที่ว่า จน เครียด กินเหล้า”, เนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย (ดีเจน๊อบ)ว่าที่ รต.ธนัท ชัชวาลย์ และ ปริศญา คูหามุข (แมงปอ AF) มาร่วมเป็นสักขีพยาน ณ วิเศษไก่ย่าง บางโพ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563







พร้อมทั้งเปิดตัวหน้ากากอนามัย แบรนด์ “Tar-Mo-nud” (ตาโมนุต แปลว่า แสงสว่าง) ที่ได้มาตรฐาน เคเอ็น 95 (KN 95) ) ผ่านการรับรองมาตรฐาน GB2626-2006 โดยมี ปู พันหน้า ผู้แต่งเพลงและร้อง "ตาโมนุต" และสายเซียร์ ดาราเจ้าบทบาทร่วมเล่นติ๊กต๊อก และยังมีกิจกรรม การบันทึกศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยลงบนหน้ากากอนามัย ด้วยสีที่ใช้ทำลงในภาชนะ เช่น จานอาหาร มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ เพื่อความสวยงามอย่างมีศิลปะอีกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้



นอกจากนี้ บริษัท สวิตต์ไดมอนด์ จำกัด ยังได้มอบหน้ากากอนามัย “Tar-Mo-nud” (ตาโมนุต) ที่ได้มาตรฐาน เคเอ็น 95 (KN 95) ) ผ่านการรับรองมาตรฐาน GB2626-2006 จำนวน 15,000 ชิ้นให้แก่มูลนิธิเมาไม่ขับ  โดยมี นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายเป็นสาธารณกุศลต่อไปยังประชาชนคนไทยที่ขาดแคลนทั่วไป เพื่อไว้ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันต่อไป และที่สำคัญ บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการในลักษณะการช่วยเหลือสังคมเช่นนี้ โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับประชาชนผู้ยากไร้ที่ยังขาดอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป




คุณภัคนภัสส์ จันทร์เพียร ประธานบริหาร บริษัท สวิตต์ไดมอนด์ จำกัด กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับภัยคุกคามจากการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของคนไทย ความต้องการหน้ากากอนามัยในประเทศไทยก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เกิดภาวะหน้ากากอนามัยขาดแคลน ส่งผลกระทบอย่างมากกลับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นทัพหน้าในการต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายนี้




จากการขาดแคลนหน้ากากอนามัยนี้เอง ดิฉัน (คุณภัคนภัสส์ จันทร์เพียร) จึงเกิดปณิธานที่อยากจะช่วยเหลือกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทยที่เสียสละในการรักษาและป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ให้ได้มีหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพใช้งานอย่างเพียงพอ จึงได้ไปปรึกษากับคุณยวนใจ วาทยะกร หนึ่งในเพื่อนสนิท เพื่อหาทางช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ในตอนแรกทั้ง 2 คนตกลงที่จะนำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศเข้ามา และบริจาคให้แก่โรงพยาบาลหรือหน่วยงานต่างๆ แต่กลับพบว่าหน้ากากอนามัยที่นำเข้ามาค่อนข้างมีราคาสูงกว่าความเป็นจริง รวมไปถึงมีคุณภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งไม่ปลอดภัยต่อการใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงได้ปรึกษาหารือกันเพื่อหาวิธีการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย คุณยวนใจจึงเสนอขึ้นมาว่า ในเมื่อนำหน้ากากอนามัยเข้ามาไม่ได้ ก็ตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเองเลยแล้วกัน” จึงได้เกิด “บริษัท สวิตต์ไดมอนด์ จำกัด” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานสากล และนำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และเป็นทั้งกองหนุนและกองเชียร์ให้แก่ผู้ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย และมุ่งมั่นทำตามปณิธานต่อไป โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การแบ่งปันจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟันฝ่าวิกฤตไวรัส COVID-19 ของประเทศไทย แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน จึงทำให้เกิดงาน พิสูจน์ทราบ หน้ากากอนามัย และศิลปะบนหน้ากาก วันนี้ขึ้น                เพื่อจะได้ทราบว่าหน้ากากอนามัยที่มีมาตราฐานและมีคุณสมบัติในการป้องกันนั้นเป็นอย่างไร จะได้เลือกใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพมาราฐานและสามารถป้องกันโรคได้จริง




ด้าน นายธีร์ธวัช เขื่อนเพชร ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิต บริษัท สวิตต์ ไดมอนด์ จำกัด เปิดเผยถึงมาตรฐานหน้ากากอนามัยที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน ประกอบด้วย  1. มาตรฐาน N95 จากอเมริกา  2. มาตรฐาน EN (FFP2) จากยุโรป  3. มาตรฐาน KN95 จากจีน  4. มาตรฐาน AS/NZS (P2) จากออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์  5. มาตรฐาน KMOEL จากเกาหลี และ 6. มาตรฐาน JMHLW (DS2) จากญี่ปุ่น  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า KN95 เป็นมาตรฐานหน้ากากอนามัยในระดับเดียวกับ N95 ที่คนไทยคุ้นหูกันดี


1.หน้ากากอนามัย KN95 ซึ่งเป็นหน้ากากอนามัยมาตรฐาน GB ของจีน ที่อยู่ในระดับเดียวกับ N95 ที่เป็น
มาตรฐานของอเมริกา ประกอบด้วยวัสดุป้องกันถึง 4 ชั้นด้วยกัน คือ
ชั้นที่ 1  Spunbond nonworen fabric เป็นที่นิยมนำไปใช้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัย มีคุณสมบัติ ยืดหยุ่นง่าย ไม่ดูดซึมน้ำ ไม่มีฝุ่นละออง ไม่มีสารพิษ ปลอดเชื้อแบคทีเรีย โดยมีการค้นคว้าว่าเชื้อโรคไม่สามารถเติบโตในผ้านี้ได้แล้ว ผ้าชนิดนี้ยังแข็งแรง ทนทาน ฉีกขาดยาก  รับน้ำหนักดี ไม่ยับง่าย ย่อยสลายทางธรรมชาติได้เร็ว สะอาดปลอดภัย ไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อราและแบคทีเรีย
ชั้นที่ 2 Hot air cotton non woren fabric มีคุณสมบัติอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นดี มีการดูดซับความชื้นที่ดี และมีการถ่ายเทอากาศที่ดี ทนต่อกรดและด่างได้ดี ไม่มีพิษ ไม่มีผลข้างเคียงทางสารเคมี ติดไฟยาก เมื่อโดนความร้อนไม่หลอมละลายเป็นของเหลว
ชั้นที่ 3 Melt blown non woren fabric มีคุณสมบัติอ่อนหนุ่ม ยืดหยุ่น ทนต่อสารเคมี และยังกระจายของเหลวบนพื้นผิวได้ดี ของเหลวซึมผ่านได้ยาก เป็นชั้นตัวกรองที่ดี
ชั้นที่ 4 Spunbond non woren hydrophilic คุณสมบัติคล้ายผ้าชิ้นที่ 1 แต่ดูดซับของเหลวและความชื้นได้ แต่ต้องคงคุณสมบัติของผ้าชั้นที่1 และรูปแบบดั้งเดิมไว้


2. หน้ากากอนามัยเยื่อกระดาษ 3 ชั้น หน้ากากอนามัยเยื่อกระดาษ 3 ชั้น หรือ Surgical Face Mask ของ TarMOnud เป็นหน้ากากอนามัย 3 ชั้น ทางการแพทย์ ถูกผลิตจากเยื่อกระดาษและตัวกรองที่มีคุณภาพทำให้ คุณสมบัติ สามารถกรองอนุภาคหรือเชื้อโรคขนาด 3 ไมครอน ที่แพร่กระจายผ่านการไอหรือการจาม เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัสบางชนิดได้
ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า “TarMOnud” คือหน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานในการป้องกันที่มีประสิทธิภาพทุกชิ้น
ขณะที่นายสุเฑพ ศิลปงาม ปรธานที่ปรึกษา บริษัท สวิตต์ ไดมอนด์ จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์การผลิตหน้ากากอนามัยของประเทศไทยในขณะนี้ว่า ไม่อยู่ในภาวะขาดแคลนแล้ว โดยทั้งจากการควบคุมของรัฐด้วยมาตรการเข้ม การเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานผลิตที่มีอยู่ต่างๆ กว่า 11 ราย และการตั้งโรงงานผลิตขึ้นใหม่เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ความต้องการหน้ากากอนามัยเชื่อว่า จะยังคงอยู่ในความต้องการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดโลกและตลาดในประเทศไทย เพราะแม้สถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลายลงได้ในช่วงต่อไป แต่ปัญหามลพิษทางอากาศ กระแสรักษ์สุขภาพ และแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยด้านระบบทางเดินหายใจที่มีมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนความต้องการหน้ากากอนามัยของไทยและตลาดโลกในอนาคต ขณะที่ประเทศไทย มลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และหมอกควันไฟป่าทั้งในประเทศและข้ามประเทศในภาคเหนือและภาคใต้ จึงเป็นปัจจัยส่งเสริมสำคัญที่จะทำให้ตลาดหน้ากากอนามัยมีโอกาสเติบโตได้อีก


ผมเห็นว่า เมื่อสถานการณ์โลกมีแนวโน้มเป็นไปอย่างนี้ และภายในประเทศก็ไม่ขาดแคลนแล้ว รัฐควรยกเลิกห้ามการส่งออกได้แล้ว พร้อมหันมาสนับสนุนให้เอกชนไทยส่งออกหน้ากากอนามัยสู่ตลาดโลกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเวียดนาม ตอนนี้รัฐบาลเขาหันมาผลักดันให้ผู้ประกอบการเวียดนามเป็นผู้ส่งออกผ้าและหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของโลก โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกหน้ากากอนามัยได้โดยไม่จำกัดปริมาณ ส่งผลให้หลายบริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันเชื้อโรคเพื่อส่งออก ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมให้เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของโลก โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ จีนและไต้หวัน 


โดยเฉพาะทักษะแรงงานไทยมีความละเอียดอ่อนและดีกว่า ก็จะทำให้หน้ากากอนามัยของไทยมีคุณภาพ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ รวมทั้งการส่งออกจะช่วยให้ผู้ผลิตไทยหันมาเอาใจใส่ต่อคุณภาพของหน้ากากอนามัยมากขึ้นด้วย ส่วนหากกลัวเมื่อเปิดการส่งออกแล้วจะทำให้เกิดการขาดแคลนในตลาดนั้น รัฐสามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ได้ เช่น การคงสต็อกสินค้า หรือเงื่อนไขเพดานการส่งออกที่มีสัดส่วนกับกำลังการผลิต





วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 4 ลงพื้นที่ พร้อมทีมกองถ่าย ถ่ายทำวีดีทัศน์เผยแพร่เส้นทาง ตาลโตนด ถ้ำพระเเม่ย่า ถนนพระร่วง เขาหลวง

งค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 4 
ลงพื้นที่ พร้อมทีมกองถ่าย ถ่ายทำวีดีทัศน์เผยแพร่เส้นทาง ตาลโตนด ถ้ำพระเเม่ย่า ถนนพระร่วง เขาหลวง  

             ดร.ประครอง สายจันทร์ ผู้จัดการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน).(อพท.4) มอบหมายให้ นายณัฐพงษ์ บุญคำ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ อพท.4 พร้อมทีม CBT ร่วมกับชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนนาเชิงคีรี แต่งตั้งโดยองค์การบริการส่วนตำบลนาเชิงคีรี ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ปรางค์ปู่จา ถนนพระร่วง เทือกเขาหลวง สมุนไพร แหล่งผักหวานป่า แหล่งตาลโตนด งานจักสานฝีมือ น้ำตกลำเกลียว น้ำตกประตู่มะค่า ข้าวอินทรีย์ กระหล่ำอินทรีย์ ถ้ำพระแม่ย่า แหล่งโบราณสถาน อีกหนึ่งสมาชิก ผู้ก่อตั้งสมาคมท่องเที่ยวโดยชุมชนสุโขทัย นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่พิเศษ 4 การถ่ายทำวีดิทัศน์ของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนนาเชิงคีรี





ชุมชนที่ 9 โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งทีมกองถ่ายและสมาชิกชมรมฯในการถ่ายทำวีดิทัศน์ การถ่ายทำครั้งนี้ชมรมฯกำกับดูแล กองถ่าย ชมรมฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาพที่ออกมาจะสมบูรณ์แบบและถูกใจนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่กำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองที่ติดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าค้นหา เพราะทุกฉากในวีดิทัศน์นั้น ทางชมรมฯได้คัดสรร นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนนาเชิงคีรีต่อไป ณ ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2563
ภาพข่าวโดย ชวมล แพจุ้ย จนท.อพท.4

ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พระเครื่องพระกรุฯ ร้องขอความเป็นธรรม ถูกหลอกไปเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ภูเก็ต แถมโดนข้อหาฉ้อโกง


ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พระเครื่องพระกรุฯ ร้องขอความเป็นธรรม
ถูกหลอกไปเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ภูเก็ต แถมโดนข้อหาฉ้อโกง

นายภูมิฐิติพัฒน์อินทปัตย์  เทพหัสดิน  เจ้าของพิพิธภัณฑ์พระเครื่องพระกรุฯ ร้องสื่อถูกเจ้าหน้าที่รัฐหลอกและรังแก เตรียมพร้อมทนายร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม  หลังปรึกษาผู้ใหญ่ต้องเดินหน้าในสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ


                 นายภูมิฐิติพัฒน์อินทปัตย์  เทพหัสดิน  ผู้ก่อตั้งและเจ้าของพิพิธภัณฑ์พระเครื่องพระกรุและหยกจีนโบราณแกะสลัก ย่านฝั่งธน จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ทางด้านพระเครื่องพระกรุและเครื่องหยกโบราณ หลังจากเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมศึกษาหาความรู้ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชมด้านศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับของเก่าของโบราณ
 แต่ต่อมาได้มีนักธุรกิจรายหนึ่งนามสมมุติว่า นาย อ."  ได้มาชวนทำธุรกิจ เชิญชวนให้เปิดพิพิธภัณฑ์ที่ภูเก็ต ใช้กลอุบายบอกว่าจะช่วยให้มีรายได้เดือนละ 2-3 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขต้องเอาวัตถุโบราณของตน เช่น หยกจีนโบราณแกะสลักและพระเครื่องจำนวนมาก มาให้เขาไปโชว์หรือแสดงก่อน ตนก็หลงเชื่อ จึงเอาวัตถุโบราณดังกล่าวที่มีมูลค่ามหาศาลให้ไป แต่เมื่อให้ไปแล้วก็ไม่ได้ทำตามคำพูดที่บอกว่าจะให้เดือนละ 2-3 ล้านจากการเอาทรัพย์สินหยกแกะสลักมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท แต่ให้มาเพียง 2 ล้านกว่าบาทเพียงครั้งเดียว แล้ว นาย ”อ. ยังไปแจ้งความหาว่าข้าพเจ้ากับภรรยาร่วมกันฉ้อโกงอีก


จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงได้ไปร้องทุกข์ขอวามเป็นธรรมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านรัฐมนตรีฯ ก็ได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองและเสรีภาพประสานเชิญนักธุรกิจนามสมมุติที่ชื่อว่า นายอ. มาไกล่เกลี่ย ข้อพิพาทกันที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ และทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะนำเงินและทรัพย์สินมาแลกเปลี่ยนกัน ณ กรมคุ้มครองสิทธิ แต่ปรากฏว่า นาย ไม่มีทรัพย์สินมาคืนให้แก่ข้าพเจ้า ส่วนข้าพเจ้ามีเงินพร้อมที่จะคืนให้แก่ นาย
ระหว่างนั้น ข้าพเจ้าได้พยาพยามร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ยศพันตำรวจโทนามว่า พ.” แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้า จึงได้ไปร้องทุกข์ต่อผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เพื่อปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนที่ข้าพเจ้าได้ไปร้องทุกข์แจ้งความไว้ และก็ได้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนใหม่ คดีก็คืบหน้า  แต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยศพันตำรวจโทคนเดิมนามว่า พ. กลับมารับผิดชอบในคดีนี้อีก
ซึ่งจนถึงขณะนี้ข้าพเจ้ากลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องดังกล่าวจึงปรึกษาทนายและไปร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฯ ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา และเตรียมไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมด้วย  เพราะเราถูกหลอกเอาของไปแล้วไม่คืน แล้วยังมากลั่นแกล้งเราอีก

บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ คณะพาณิชยศาสตร์ฯ มธ. มอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025”

บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ คณะพาณิชยศาสตร์ฯ มธ. มอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025”  เชิดชู สุดยอดผู้นำที่พร้อมนำองค์กรฝ่ามรสุมแห่งความ...