วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

CP Land เอาใจคนอยากมีบ้าน ชวนเที่ยวงานดนตรีใน 'สวนแห่งทัสคานี’ Music in ‘the Garden of Tuscani’ 8 ตุลาคมนี้ จองภายในงาน​รับส่วนลดสูงสุด 6 แสน iPhone 14 ProMax โปรผ่อนสบายล้านละ 2,500 บาท

CP Land เอาใจคนอยากมีบ้าน ชวนเที่ยวงานดนตรีใน 'สวนแห่งทัสคานี’ 

Music in ‘the Garden of Tuscani’ 8 ตุลาคมนี้ 

จองภายในงาน​รับส่วนลดสูงสุด 6 แสน iPhone 14 ProMax โปรผ่อนสบายล้านละ 2,500 บาท

                นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน รองกรรมการผู้จัดการงานบริหารคอนโดฯและสำนักงานให้เช่า บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยว่า CP LAND ขอเชิญชวนเที่ยวงานดนตรีใน 'สวนแห่งทัสคานี’ (Music in ‘the Garden of Tuscani’) ร่วมฟังดนตรี รับประทานอาหาร สัมผัสประสบการณ์บรรยากาศ เหมือนดั่งอยู่ในสวนแห่งเมืองทัสคานี ประเทศอิตาลี ที่หมู่บ้านทัสคานี มีนบุรี-ประชาร่วมใจ 37  ในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2565 ระหว่างเวลา 16.00 น. – 20.30 น.นี้

                โดยภายในงานจะได้พบกับการเปิดตัวบ้านโซนใหม่ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Chic Republic ทั้งหลัง พร้อมเอาใจคนอยากมีบ้าน ตัดสินใจจองภายในงานรับสิทธิ 'VVIP Price' ส่วนลดสูงสุด 600,000 บาท รับเพิ่ม iPhone 14 Pro Max ความจุ 128 GB มูลค่า 44,900 บาท  ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน ค่าส่วนกลาง 2 ปี  ฟรีเฟอร์นิเจอร์จาก Chic Republic เครื่องปรับอากาศ เครื่องปั๊มน้ำ  ปูหญ้า คอนกรีตแสตมป์  พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ โปรผ่อนสบายๆ เพียงล้านละ 2,500 บาท*  นอกจากนี้ยังมีสิทธิลุ้นรับบัตรกำนัลห้องพักโรงแรมในเครือฟอร์จูนกรุ๊ป ทั่วประเทศ และหากแนะนำเพื่อนมาซื้อโครงการ รับค่าแนะนำสูงสุด 30,000 บาท

                และที่ขาดไม่ได้ เซอร์ไพรส์ใหญ่ของCP LAND พบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์ หรือ หน้ากากทุเรียน จากรายการ The Mask Singer

                นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรม Workshop แสนอบอุ่นสำหรับทุกคนในครอบครัว ลุ้นของรางวัลต่างๆมากมาย รวมถึง ซุ้มอาหาร Food Trucks ร้านดัง บูธจากพันธมิตร พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายจาก 12 ธนาคารชั้นนำ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงศรี  ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาติ ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบี ธนาคารยูโอบี พร้อมให้คำปรึกษาทางการเงิน และมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เงินกู้สูงสุด 110% *

                ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://forms.gle/Er7gDU2YL72jY5FaA และสอบถามช้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line OA: @cpland คลิกลิงก์ https://lin.ee/ySC2hK0  หรือ โทร. 020708888 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

#CPLAND #ซีพีแลนด์ #CPLandProperty #บ้านหลังแรก #บ้านเพื่อครอบครัว #อสังหาเพื่อลงทุน #คอนโดเพื่อลงทุน #คอนโดพร้อมอยู่ #บ้านคุณภาพดี #ใครก็กู้ได้ #Tuscani #Home #Condominium #Condo #Townhome #CondoForInvest #Invest

 

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565

รพ.นครธน จับมือบำรุงราษฎร์เฮลท์ เน็ตเวิร์ก จัดตั้งศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ปลดล็อกอาการปวดหลัง กลับมาใช้ชีวิตอิสระได้อีกครั้ง

รพ.นครธน จับมือบำรุงราษฎร์เฮลท์ เน็ตเวิร์ก 

จัดตั้งศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง 

ปลดล็อกอาการปวดหลัง 

กลับมาใช้ชีวิตอิสระได้อีกครั้ง

นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยให้ความเจ็บป่วยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป การเกิดอาการปวดที่กระดูกสันหลัง ซึ่งในอดีตถือเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งถ้าเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทในรายที่รุนแรงถึงขนาดไม่สามารถเดิน หรือนั่ง แม้กระทั่งนอนได้ อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปิดหลังเป็นแผลยาวเพื่อเลาะกล้ามเนื้อเข้าไปจัดการกับต้นตอของความเจ็บปวด ไม่เพียงผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด หลังการผ่าตัดยังต้องพักรักษาตัวเป็นระยะเวลายาวนานกว่าร่างกายจะฟื้นกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

จากจุดเริ่มต้นที่ โรงพยาบาลนครธน มุ่งมั่นในการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชั้นนำในย่านพระรามที่ 2 ที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล จัดตั้งศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โดยความร่วมมือกับ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก ให้บริการเฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีปัญหาความผิดปกติทางกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง และเส้นประสาท พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง และทีมสหสาขา ด้วยการใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษา และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเป็นสำคัญ พร้อมได้รับการรักษาในราคาที่สามารถเข้าถึงได้

รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด  กล่าวว่า รูปแบบความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลนครธน และบำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก เป็นการนำองค์ความรู้ทางการแพทย์ บุคลากรที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะทีมแพทย์เฉพาะทางในการรักษาโรคกระดูกสันหลังมาร่วมมือกับโรงพยาบาลนครธน เพื่อร่วมกันจัดตั้งศูนย์กระดูกสันหลัง ณ โรงพยาบาลนครธน รวมทั้งเทคโนโลยีการรักษาโรคกระดูกสันหลังที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษา และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเป็นสำคัญ พร้อมได้รับการรักษาในราคาที่สามารถเข้าถึงได้


โรงพยาบาลนครธนเปิดให้บริการมากว่า 25 ปี ได้มีการพัฒนาเพื่อคุณภาพการรักษาและการบริการมาตลอด จากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อตอกย้ำเป้าหมายการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชั้นนำ    ในย่านพระรามที่ 2 ตามวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งมั่นสู่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตามมาตรฐานสากล และให้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized Healthcare)”

ด้าน นายสมศักดิ์ วิวัฒนสินชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก กล่าวว่า จากความร่วมมือในการจัดตั้ง ศูนย์กระดูกสันหลัง รพ.นครธน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทางบำรุงราษฎร์ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับบุคลากรของโรงพยาบาลนครธน เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถในการให้การรักษาตามแนวทางของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นรูปแบบใหม่ของธุรกิจการให้บริบาลทางการแพทย์ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ป่วยของโรงพยาบาลนครธนสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพตามแนวทางของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในราคาที่สอดคล้องกับกลุ่มคนไข้ของโรงพยาบาลนครธน ซึ่งตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ถึงแม้ว่า ทางศูนย์ฯ ต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปรากฏว่ามีผู้ป่วยเข้ามาใช้การบริบาลของศูนย์อย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ซึ่งมั่นใจว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี การให้บริการของศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ก็จะยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากขึ้นเป็นลำดับในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่ครบวงจร ด้วยความชำนาญของทีมแพทย์เฉพาะทาง และด้วยผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีที่สุด

นพ.วีระพันธ์ ควรทรงธรรม ผู้อำนวยการสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ และผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน มีการวางแผนหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีการประชุมทีมร่วมกับแพทย์เฉพาะทางอย่างน้อย 4 ท่านขึ้นไป เพื่อนำเอาความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เฉพาะทางแต่ละสาขามาร่วมกันดูแลผู้ป่วย ฉะนั้นผู้ป่วยจึงไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูล หรือพบแพทย์หลายโรงพยาบาล เพราะที่นี่รวบรวมหลากหลายความคิดเห็นจากทีมแพทย์ไว้ให้ในที่เดียวกันแล้ว ถือเป็นความคิดเห็นที่ดีและเหมาะสมที่สุด โดยทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังกว่า 10 ปี รักษาผู้ป่วยมาแล้วกว่า 10,000 ราย ซึ่งวิธีการรักษาอาการปวดหลัง ปวดคอ มีตั้งแต่แค่ทานยา การทำกายภาพบำบัดเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง การฉีดยาระงับปวด ไปจนถึงการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งในรายที่รักษาด้วยการทานยาแล้วไม่ดีขึ้น หรืออาการเป็นมากตั้งแต่แรก เมื่อประเมินดูแล้วว่าการรักษาด้วยยาอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาจจะพิจารณาให้รักษาด้วยการทำ Intervention ซึ่งเป็นการรักษาแบบโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือการผ่าตัด โดยแพทย์ประจำศูนย์จะให้คำแนะนำ ให้การรักษา และให้ทางเลือกกับผู้ป่วยเป็นผู้ตัดสินใจ

ทั้งนี้ คนไข้ที่มีอาการปวดคอ ปวดหลัง บริเวณเอว ปวดร้าวลงแขนลงขา หรือมีอาการชาบริเวณแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง คนไข้เหล่านี้มีโอกาสเป็นอาการกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท สาเหตุโดยหลักเกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการมีอายุที่มากขึ้น การใช้งาน เช่น มีการยกของหนัก ก้มเงยบ่อย นั่งนานๆ หรือเล่นกีฬาบางประเภทที่ทำให้เกิดการกระแทกกับกระดูกสันหลัง ฉะนั้น หากมีอาการปวดเรื้อรังร่วมกับอาการชาหรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

                การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคป และไมโครสโคป เป็นเทคนิค และวิธีการผ่าตัดที่ทำให้คนไข้บอบช้ำน้อยที่สุด โดยกล้องเอ็นโดสโคปซึ่งมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ถึง 1 เซ็นติเมตร มีเลนส์ติดอยู่ที่ปลาย เปรียบเสมือนดวงตาของศัลยแพทย์ มีใยแก้วนำแสงเพื่อช่วยในการมองเห็น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจนตรงจุด นอกจากนี้ ยังมี O-arm navigation เครื่องเอกซเรย์ 3 มิติ เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับศัลยแพทย์ในการผ่าตัด

            คุณดาววิภา ฉายางาม  เล่าถึงอาการก่อนการรักษาว่า อาการปวดเริ่มจากปวดบริเวณสะโพกร้าวลงมาที่ขาขวาและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในเรื่องของการเดิน หลังจากรักษาด้วยการทานยา และกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่ดีขึ้น

กังวลว่าหากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้อาจจะทำให้ถึงขั้นเดินไม่ได้ ซึ่งหลังจากการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป ที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน  ทำให้สามารถกลับมาเดินได้อย่างปกติ ไม่กลับมาปวดซ้ำอีก ใครที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดสะโพก มีอาการชา อ่อนแรงร่วมด้วย อย่าปล่อยทิ้งไว้ อยากให้รีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาค่ะ

คุณไพลิน สุรนาถกิตติธร อีกหนึ่งผู้รับบริการที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ที่มีความกังวลกลัวการผ่าตัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ในการผ่าตัดรักษาอาการปวดหลังด้วยวิธีอื่นมาก่อน

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้รู้สึกกลัวการผ่าตัดเพราะเจ็บปวด และใช้เวลาพักฟื้นนาน คุณหมอศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ได้ช่วยหาแนวทางการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ที่เป็นการผ่าตัดแผลเล็ก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังการผ่าตัด ทำให้หมดกังวลใจทันที สำหรับการผ่าตัดครั้งนี้ เพียง 1 วันหลังการผ่าตัด ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม

คุณรชานนท์ เอี่ยมละออ เล่าถึงประสบการณ์เข้ารับการรักษาปวดคอเรื้อรัง เนื่องจากทำงานเป็นนักบัญชี ซึ่งต้องนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน จึงมีอาการปวดคอ ร้าวลงแขน ลงมา บ่า และไหล่ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องรีบมารักษาอย่างจริงจัง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์สำลักน้ำ แล้วเกิดอาการเหมือนไฟฟ้าช็อตตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงขา ทำให้ร่างกายรวมทั้งแขนไม่มีแรง แม้แต่การเขียนหนังสือก็เป็นเรื่องยาก เมื่อเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน แพทย์อธิบายอย่างละเอียดถึงอาการว่าเกิดจากปัญหาใด การรักษาควรจะไปในทิศทางไหน การรักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกคอผ่านกล้องเอ็นโดสโคปว่าใช้ระยะเวลาสั้น แผลเล็ก เจ็บน้อย จึงเกิดความมั่นใจ และตัดสินใจรักษา 

หลังจากเข้ารับการผ่าตัดไม่นานก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ เขียนหนังสือได้ ทำงานบ้านได้ ทั้งยังสามารถเล่นงัดข้อกับลูกได้เหมือนเมื่อก่อน

สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหาโรคกระดูกสันหลัง หากมีอาการ เช่น ปวดคอ หรือ ปวดหลัง เรื้อรัง ปวดคอร้าวลงแขน ปวดหลังร้าวลงขา หรือ มีอาการแขนชา มือชา หรือ ขาชา ร่วมด้วย ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม และดีที่สุด ทำให้กลับมามีคุณภาพชีวิตได้อย่างอิสระอีกครั้ง.สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ โรงพยาบาลนครธน

 

 

 

 

 

 

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565

โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เปิดตัว CORI หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม

 โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง  เปิดตัว CORI 

หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม

นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง  นพ.พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง และ รศ.นพ.สาธิต  เที่ยงวิทยาพร ประธานอนุสาขาข้อสะโพกข้อเข่าราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว CORI หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมของ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ณอาคารผู้ป่วยนอก (OPD) ชั้นโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง

อาการปวดข้อสร้างความทุกข์ทรมาน และเป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะข้อเข่า เนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักของร่างกายเป็นหลัก แม้ว่าข้อเข่าเสื่อมมักพบในคนที่มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากอายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายเริ่มถดถอย และข้อเข่าเสื่อมพบในเพศหญิงมากกว่าเนื่องจากปัจจัยด้านฮอร์โมน

ในปัจจุบันสามารถพบโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้ที่มีอายุน้อย สาเหตุจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ยังขึ้นอยู่กับการใช้งานเข่า การทำกิจกรรม หรือกิจวัตรประจำวันที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามาก เช่น การเดินขึ้น-ลงบันได รวมทั้งในผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุจากการกระแทกอย่างรุนแรงของข้อเข่า ทำให้มีการฉีกขาดของกระดูกอ่อน หรือเส้นเอ็นภายในข้อเข่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาทางการแพทย์ ทำให้สามารถรับมือกับโรคภัยต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม การรักษาขึ้นกับความรุนแรงของอาการ ตั้งแต่การรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์นิยม โดยใช้ยาไปจนถึงการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า โดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเข้ามาอำนวยความสะดวก โดยเล็งผลในด้านประสิทธิภาพประสิทธิผลที่ตรงจุดและปลอดภัย

นพ.พิชิต กังวลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวว่า ในปัจจุบันวงการแพทย์มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างแพร่หลายตามมาตรฐานระดับสากล ไม่ใช่แค่เพื่อให้เกิดประโยชน์ในด้านของการอำนวยความสะดวกแก่คนไข้เท่านั้น แต่ต้องการให้เกิดประโยชน์ทางการรักษาที่เพิ่มคุณภาพบริการ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นด้วย   โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จึงมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีการรักษาและนวัตกรรมทางการแพทย์เหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นต้น ทั้งนี้การให้บริการของโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เราได้ผนวกความชำนาญการเฉพาะทางของแพทย์แต่ละสาขา พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผสมผสานไปกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความก้าวหน้า โดยนำมาปรับใช้ร่วมกับการรักษาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน นพ.พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลฯ เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีหุ่นยนต์อัจฉริยะครั้งนี้ เพื่อมาช่วยในการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมซึ่งทำการผ่าตัดผ่านการควบคุมของทีมศัลยแพทย์กระดูกและข้อที่ชำนาญการ  ทำให้การผ่าตัดโดยเฉพาะตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยากมีความตรงจุดมากขึ้น และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัด ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ข้อดีอีกประการหนึ่งคนไข้จะได้รับโดยตรงคือไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำ CT Scan ทำให้คนไข้ลดการสัมผัสต่อรังสีเนื่องจากคุณสมบัติของหุ่นยนต์รุ่นนี้ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมด้วยเทคนิคการจำลองข้อเข่าสามมิติและแผนการผ่าตัดเสมือนจริง ช่วยให้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมมีความตรงจุดมากขึ้น

ส่วน รศ.นพ.สาธิต เที่ยงวิทยาพร ประธานอนุสาขาข้อสะโพกข้อเข่าราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม หัวหน้าทีมแพทย์การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ข้อสะโพก และแพทย์ที่ปรึกษาของศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ซึ่งมีประสบการณ์ในการผ่าตัดด้วยเทคนิคการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัด ไม่ต่ำกว่า 150 ราย ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า การใช้เทคโนโลยีที่ไม่ต้องพึ่งการส่งผู้ป่วยตรวจ CT SCAN  โดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมอัจฉริยะแบแผลเล็ก Robotic Assisted Total Knee Arthroplasty ทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นไปได้อย่างถูกต้อง ตรงจุดมากขึ้น และยังช่วยศัลยแพทย์ผ่าตัด ในการคำนวณการปรับความตึงของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อโดยรอบข้อเข่าให้เป็นไปอย่างเหมาะสมโดยระบบปฏิบัติการของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดจะประมวลผลข้อมูลที่ได้ออกมาเป็นรูปแบบจำลองของกระดูกคนไข้ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเฉพาะบุคคลของคนไข้แต่ละราย

นอกจากนี้ยังสามารถจำลองแผนการผ่าตัดเสมือนจริงส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือผ่าตัดแบบเดิมๆ อีกทั้งเครื่องกรอกระดูกที่ควบคุมโดยระบบปฏิบัติการของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด  ได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็ก เหมาะสมถนัดมือช่วยให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดทำการตัดกรอกระดูกเฉพาะส่วนที่ต้องการออก จึงลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงรอบ ๆ ข้อเข่า และลดการบาดเจ็บต่อกระดูก โดยให้เป็นไปตามที่ได้กำหนดและวางแผนไว้ ทั้งนี้เพื่อสามารถเตรียมกระดูกให้มีขนาดพอดีกับการใส่ข้อเข่าเทียมที่เหมาะสมต่อไป หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดช่วยศัลยแพทย์กำหนดขนาดและตำแหน่งการวางข้อเทียมได้อย่างตรงจุดส่งผลให้อายุการใช้งานของข้อเข่าเทียมยาวนานขึ้น โดยรวมแล้วผู้ป่วยจึงฟื้นสภาพข้อเข่าได้เร็ว สามารถเดินลงน้ำหนักและกลับไปประกอบกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ต้องการช่วยให้ผู้ป่วย หรือผู้รับบริการทั้งคนไทยและต่างชาติ ผ่านพ้นความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดข้อเข่าและสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะแบแผลเล็ก Robotic Assisted Total Knee Arthroplasty ได้สะดวก ผู้ป่วยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น



อีกทั้งในอนาคตทางศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จะเปิดศูนย์ฝึกอบรมสอนแสดงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าให้แก่แพทย์ พยาบาล เพื่อเป็นวิทยาทานและร่วมพัฒนาวงการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติต่อไป

 

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2565

PMCU รับมอบเสาจราจรล้มลุกจากบริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ จำกัด เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อประโยชน์ทางคมนาคมทางบก

 PMCU รับมอบเสาจราจรล้มลุกจากบริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ จำกัด เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อประโยชน์ทางคมนาคมทางบก

                        รศ.ดร.จิตติศักดิ์  ธรรมาภรณ์พิลาศ  รองอธิการบดีด้านการจัดการทรัพย์สินและกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) รับมอบเสาจราจรล้มลุกผลิตจากยางธรรมชาติ (ยางพารา) จำนวน 300 ต้น จากคุณสุวัฒน์  กอบกาญจน์สกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ จำกัด ณ Sky Scape สยามสเคป เมื่อเร็วๆ นี้

                       ซึ่งเสาจราจรล้มลุกดังกล่าวเป็นผลงานการวิจัยของ รศ.ดร. ศิริลักษณ์ พุ่มประดับ  ภายใต้โครงการ “นวัตกรรมเสาจราจรล้มลุกจากยางธรรมชาติเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางคมนาคมทางบก (Innovative Traffic Poles from Natural Rubber for use in Land Transportation)” โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) และบริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ จำกัด เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการจราจร ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งยังช่วยส่งเสริมการเดินอัจฉริยะ หรือ Smart Mobility ภายใต้โครงการ Samyan Smart City 

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565

ซี.พี.แลนด์ ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาทใน 3 ปี มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเจริญสู่สังคม พัฒนาคุณภาพโครงการอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ซี.พี.แลนด์ ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาทใน 3 ปี

มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเจริญสู่สังคม

พัฒนาคุณภาพโครงการอย่างต่อเนื่อง  



 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

                บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซี.พี.แลนด์ ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้เพิ่มขึ้น  สู่ระดับ 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 หรือ อีก 3 ปีข้างหน้า เดินหน้าตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์ โดยเฉพาะตลาดของคนรุ่นใหม่ พร้อมมุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเจริญสู่สังคมทั้งในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย บ้านเดียว คอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ศูนย์ประชุม ศูนย์การค้า โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) และนิคมอุตสาหกรรม 

                 นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ ซี.พี.แลนด์ ตลอดทั้งปี 2565 ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 1700 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน และภายในปี 2568 หรือ อีก 3 ปีข้างหน้า  ซี.พี.แลนด์ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว หรืออีก 200% สู่ระดับ 5,000 ล้านบาท

“จากเป้าหมายที่คาดว่าจะขยายตัว 42% ในปีนี้ เชื่อว่าเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจบ้านและคอนโด กลุ่มธุรกิจโรงแรมเครือแกรนด์ ฟอร์จูน ศูนย์การค้า และอัตราค่าเช่าสำนักงานที่กลับมายืนอยู่จุดเดิมก่อนช่วงเกิดโควิด – 19 อีกทั้งยังมีแนวทางในการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และแนวทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆอย่างศูนย์ประชุมไคซ์ KICE หรือ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (Khonkaen International Convention & Exhibition) และนิคมอุตสาหกรรม กระจายในส่วนภูมิภาค ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเจริญสู่สังคมของซี.พี.แลนด์”

                 นอกจากนี้ ซี.พี.แลนด์ มุ่งมั่นให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่สนใจด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม  โดยเรามุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ตอบสนองความต้องการรสนิยม และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพของโครงการ รวมถึงการตอบโจทย์ไลฟสไตล์ความเป็นคนรุ่นใหม่ ในด้านการออกแบบโครงการ ให้มีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) ซี.พี.แลนด์ โฉมใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงในขณะนี้

                 “ซี.พี.แลนด์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งลูกค้าคือหัวใจหลักของเรา (Customer Centric) จึงจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษาถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในอนาคต เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ๆให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้สูงสุด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการ ปรับภาพลักษณ์ซี.พี.แลนด์ โฉมใหม่ เน้นความเป็นมืออาชีพ และมีความเป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า ซี.พี.แลนด์ จะสามารถสร้างรายได้ 5,000 ล้านบาท และเป็นบริษัทที่สร้างสรรค์ความเจริญสู่สังคม ตามเป้าหมายที่วางไว้”

“วัน แชมเปียนชิพ (ONE)” ผนึกกำลัง “สนามมวยเวทีลุมพินี”แถลงข่าวยิ่งใหญ่! เตรียมระเบิดศึก ONE LUMPINEE กับดีลประวัติศาสตร์ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่สู่วงการมวยไทยทั้งระบบ

“วัน แชมเปียนชิพ (ONE)” ผนึกกำลัง “สนามมวยเวทีลุมพินี”แถลงข่าวยิ่งใหญ่! 

เตรียมระเบิดศึก ONE LUMPINEE 

กับดีลประวัติศาสตร์ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่สู่วงการมวยไทยทั้งระบบ

             “วัน แชมเปียนชิพ (ONE)” องค์กรสื่อกีฬาระดับโลก ผนึกกำลัง “สนามมวยเวทีลุมพินี” เปิดประวัติศาสต์หน้าใหม่ให้กับวงการมวยไทย เตรียมระเบิดศึก ONE LUMPINEE ด้วยมาตรฐานโปรดักชันระดับโลก สร้างคอนเทนต์กีฬาในรูปแบบเวิลด์คลาส ยกระดับวงการมวยไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยบิ๊กบอสใหญ่ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” แย้มจัดศึกปฐมฤกษ์มกราคมปีหน้า ในรูปแบบอินเตอร์เนชันแนลไฟต์ ที่รวบรวมศิลปะการต่อสู้อันหลากหลายทั้ง มวยไทย มิกซ์มาเชียลอาร์ต (MMA) คิกบ็อกซิง ฯลฯ ยิงสดมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ผู้ชมมากกว่า 60 ล้านคนในทุกแพลตฟอร์ม

             "นายชาตรี ศิษย์ยอดธง" ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE พร้อมด้วย "พลเอกสุชาติ แดงประไพ" ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) แถลงข่าวประกาศความร่วมมือ เตรียมจัดการแข่งขันมวยไทยโปรดักชันระดับโลกในชื่อศึก “ONE LUMPINEE” ณ สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา กรุงเทพ โดยมีเหล่าโปรโมเตอร์ หัวหน้าคณะ ค่ายมวย นักมวยไทย บุคลากรในวงการกีฬาทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ตลอดจนแฟนคลับ เดินทางมาร่วมงานกว่า 1,000 คน เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 

             นายชาตรี ศิษย์ยอดธง เปิดเผยว่า “สนามมวยเวทีลุมพินี ถือเป็นสนามมวยอันทรงเกียรติยศสูงสุดแห่งวงการมวยไทยมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่ให้กำเนิดแชมป์มวยไทย และนักชกระดับตำนานมาแล้วหลายยุคหลายสมัย และนักชกซึ่งเป็นแชมป์โลกของ ONE หลายคนก็มีความหลังกับสนามมวยแห่งนี้ โดยสนามมวยเวทีลุมพินีมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้จริงๆ โดยปลอดการพนัน มีมาตรฐานที่จะก้าวไปสู่ระดับโลกได้ จึงเป็นที่มาของการตอบรับคำเชิญจากกองทัพบกในการรับตำแหน่งโปรโมเตอร์ประจำสนามมวยเวทีลุมพินีในครั้งนี้”

              “ลุมพินีได้รับการยกย่องว่าเป็นเมกกะมวยไทยแห่งหนึ่งของโลก ความร่วมมือกับ ONE ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมมั่นใจว่าจะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ และช่วยยกระดับมวยไทยไปสู่ระดับโลกได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเราจะนำระบบการจัดการแข่งขันมาตรฐานเวิลด์คลาสของ ONE ที่เป็นสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ และมีเกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงธรรมได้มาตรฐานสากล มาจัดให้แฟน ๆ ได้รับชมกันอย่างจุใจในชื่อศึก ONE LUMPINEE และยังต่อยอดสู่การเป็นคอนเทนต์ระดับโลกที่ช่วยโปรโมตประเทศไทยไปในตัว ถ่ายทอดสดไปมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ผู้ชมมากกว่า 60 ล้านคนในทุกแพลตฟอร์ม"

             “สำคัญที่สุด เราพร้อมจะให้ค่าตอบแทนที่สูงที่สุดในประเทศไทยแก่นักมวยที่เข้าแข่งขันใน ONE LUMPINEE เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของนักกีฬา พร้อมเปิดกว้างให้ค่ายมวยทุกแห่งทั่วประเทศส่งนักมวยเข้าแข่งขัน หากใครทำผลงานได้ดีก็จะมีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาในสังกัดของ ONE หรือลงแข่งขันชิงแชมป์ในทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ ของ ONE ได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังจะมีการจัดอินเตอร์เนชันแนลไฟต์ ที่รวบรวมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ทั้ง มวยไทย มิกซ์มาเชียลอาร์ต (MMA) คิกบ็อกซิง ฯลฯ ทำให้การรับชมกีฬาการต่อสู้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น”

           ด้าน พล.อ.สุชาติ แดงประไพ กล่าวว่า “ทางกองทัพบกมีความตั้งใจอย่างมากที่จะยกระดับมวยไทยให้เป็นกีฬาอย่างแท้จริง เราหวังที่จะเห็นมวยไทยซึ่งไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะผลักดันมวยไทยให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์สู่ระดับโลก เราจึงมองหาโปรโมเตอร์ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง จึงได้เชิญ ONE ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกมาเป็นโปรโมเตอร์จัดศึก ONE LUMPINEE ในครั้งนี้”

 “แฟนๆ จะได้เห็นโปรดักชันดีไซน์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในวงการมวยไทย โดยจะมีการจัดแข่งขันเกิดขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมมวยไทยแล้ว ยังเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมวงการมวยไทยไปสู่ระดับโลกด้วย”

          “ทีมงานของสนามมวยเวทีลุมพินี และ ONE จะทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนกรรมการ และทีมงาน ซึ่งจะทำให้ช่วยเพิ่มองค์ความรู้ และประสบการณ์ให้กับบุคลากรในวงการมวยไทยบ้านเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรามีผู้ตัดสินชาวไทยหลายคนที่มีความสามารถและฝีมือดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำงานในองค์กรใหญ่ระดับนานาชาติ การเข้ามาของ ONE จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถสู่สายตาชาวโลกได้มากขึ้น และหากทำได้ดีก็มีโอกาสที่จะต่อยอดไปเป็นกรรมการในศึก ONE ได้ต่อไปในอนาคต”

             ทั้งนี้ ONE LUMPINEE จะระเบิดศึกนัดแรกรับศักราชใหม่ในเดือนมกราคม 2566 โดยจะจัดการแข่งขันทุกสัปดาห์ อย่างน้อย 52 ครั้งตลอดปี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นศูนย์กลางของเมกกะมวยไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์รวมของศิลปะการต่อสู้อันหลากหลายในรูปแบบสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์และการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญของไทย

 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และแฟนเพจ Lumpinee Boxing Stadium

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เสด็จพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เสด็จพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร”  สัญลักษณ์ของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพร...