วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

"แม่ปอง" นำทีมนักแสดงจากทั่วฟ้าเมืองไทยร่วมบวงสรวง เปิดกล้องหนัง ‘หลวงพี่ดีเนาะ’ ตั๊ก -อรุณศักดิ์ อ่องลออ กำกับฯ

"แม่ปอง" นำทีมนักแสดงจากทั่วฟ้าเมืองไทยร่วมบวงสรวง เปิดกล้องหนัง ‘หลวงพี่ดีเนาะ’ ตั๊ก -อรุณศักดิ์ อ่องลออ กำกับฯ

       วันที่ 27 มกราคม 2565 เวลา 09.09 น. เป็นฤกษ์งามยามดี บวงสรวงเปิดกล้องหนัง "หลวงพี่ดีเนาะ" เป็นไปอย่่างเรียบร้อย ที่สนามมวยลุมพินี พร้อมเดินหน้าถ่ายทำเต็มที่ นำทีมโดย ตั๊ก-อรุณศักดิ์ อ่องลออ ผู้กำกับอินดี้ตลอดกาล, สิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ผู้อำนวยการสร้าง และประจักษ์ชัย ไหทองคำ โคโปรดิวเซอร์


     ภาพยนตร์ "หลวงพี่ดีเนาะ" เรื่องนี้รับประกันมีแต่ความฮา แถมให้สาระข้อคิดไปในตัว แม่ปองหรือทิดปอง สมปอง นครไธสง ขึ้นแท่นพระเอกภาพยนตร์ครั้งแรก นำทีมเหล่่านักแสดงอีกหลายท่าน อาทิ อู๊ด เป็นต่อ, บอล เชิญยิ้ม, ชูษี เชิญยิ้ม, นุ้ย เชิญยิ้ม, เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก, เอ็มมี่ แมกซิม, กานต์-วิภากานต์ ศุขพิมาย ฝ, ชนินทร จิตปรีดา, กานต์ ทศน, นวลละออง ดอนเสือ, มนชยา เซเคอร์, สายเชียร์ แสงวิโรจน์, อาฉี เสียงหล่อ พร้อมด้วย ชนากานต์ นาโสม มิสแกรนด์เลย, สุมินตรา ชุดชนบท มิสแกรนด์บึงกาฬ, อรุณลักษณ์ โมทะนีชัยโชค มิสแกรนด์สกลนคร  ซึ่งมีการถ่ายทำกันที่พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ

 และภาพยนตร์เรื่อง "หลวงพี่ดีเนาะ" เป็นการถ่ายทำแบบ ONE CUT ไม่มีการตัดต่อ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการหนังไทย และยังเป็นหนังวันคัทเรื่องแรกที่ยาวที่สุดของประเทศไทย พร้อมขึ้นแท่นหนังวันคัทอันดับ 1 ของเอเชีย และของโลก


        "หลวงพี่ดีเนาะ" เป็นเรื่องราวอลวน ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบภาคอีสาน โดยมีหลวงพี่ท่านหนึ่งที่มองโลกในแง่ดี เมื่อมีปัญหาอะไรๆ ก็จะพูดว่า "ดีเนาะ" แถมคนในหมู่บ้านแต่ละคนยังพาให้อลวนอลเวง เล่าเรื่องด้วยการเน้นความสนุกสนาน เฮฮา แต่แฝงไปด้วยสาระและข้อคิด

     งานนี้แฟนๆ จะได้รับชมภาพยนตร์ในวันเข้าพรรษา 14 พฤษภาคม 2565 นี้ทุกโรง รับประกันฮาแน่นอน และติดตามทุกความเคลื่อนไหว เบื้องหลังความฮา ทุกเรื่องราวในภาพยนตร์หลวงพี่ดีเนาะได้ที่ FB : One cut Monk หลวงพี่ดีเนาะ








รมว.ท่องเที่ยว ปล่อยตัวนักกีฬาในการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน2022” รูปแบบ Night Run ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

รมว.ท่องเที่ยว  ปล่อยตัวนักกีฬาในการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน2022” รูปแบบ Night Run ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์


      นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ยูไนเต็ดและประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นเเนล เซอร์กิต, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท., นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมปล่อยตัวนักกีฬาในการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน2022” รูปแบบ Night Run บนมาตรฐานเดียวกับ Gold Label เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์


      การแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน2022” ตลอดเส้นทางวิ่งประดับไฟแสงสีตระการตา ภายใต้มาตรการสาธารณสุขสูงสุด ผู้ร่วมงานทุกคนได้รับวัคซีนครบโดส เน้นมาตรการ Covid Free Setting ปล่อยตัวแบบเวฟ เว้นระยะห่าง กองเชียร์ห้ามสัมผัสนักวิ่ง อันจะเป็นต้นแบบอีเว้นต์กีฬาระดับโลกวิถีใหม่ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว


          ตลอดจนกิจกรรมดังกล่าวส่งเสริมภาพลักษณ์ให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเมืองกีฬา (Sport Destination) กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ท้องถิ่นอย่างมหาศาล

สองบอสใหญ่ KPPM Group ทำบุญปีใหม่ บวงสรวงเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล

สองบอสใหญ่ KPPM Group ทำบุญปีใหม่ บวงสรวงเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล






นางสาวกฤติยาณี พรมแพง และ นายพัฒพงศ์ พงศ์พาพัฒน์ สองบอสใหญ่ KPPM Group นำคณะผู้บริหาร พนักงานของบริษัท ถือโอกาสวันนี้วันดี “ทำบุญปีใหม่ บวงสรวงเอาฤกษ์เอาชัยไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ ถวายสังฆทาน “ ณ ออฟฟิศเคพีพีเอ็มกรุ๊ป ชั้น 20 อาคารเอ็ม เอส สยาม ช่องนนทรี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565



 พร้อมกันนี้ ก็ถือฤกษ์งามยามดีวันพระ วันที่ 25 มกราคม 2565 ทำบุญโรงงานที่โรงงาน KPPM GLOBAL RUBBER ที่จังหวัดระยอง โดยมีการเลี้ยงเพลพระสงฆ์ ถวายสังฆทาน รับพร รับพลังใจปีใหม่ และบรวงสรวงไหว้เทวดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโรงงาน เพื่อการเริ่มต้นดีๆ ในปี 2565 ในวันนั้นเกิดปรากฎการณ์ปาฏิหารย์ พระอาทิตย์ทรงกรดแต่เช้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้รับทราบ และมาร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกับสองผู้บริหารและทีมงานพนักงานบริษัททุกคน ขอผลบุญหนุนนำให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง เฮง เฮง รวย รวย ตลอดปีและตลอดไป สาธุ





นางสาวกฤติยาณี พรมแพง และ นายพัฒพงศ์ พงศ์พาพัฒน์ สองบอสใหญ่ KPPM Group กล่าวว่า ปีใหม่ทั้งที ก็ถือฤกษ์วันดี นำผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ร่วมกันทำบุญปีใหม่ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยพร้อมทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ ถวายสังฆทาน ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บริษัทในเครือ KPPM Group ขอให้ผลบุญหนุนนำให้ให้กิจการของบริษัทประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน กิจการเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย มั่งคั่ง เฮง เฮง ปัง ปัง มีความสุข รวมทั้งขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปี 2565 และตลอดไป 

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565

เที่ยว "งานเมืองทวารวดีศรีจันเสน เที่ยวติดเทรนด์ อย่างคนมีสไตล์" ณ พิพิธภัณฑ์จันเสน จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2565

เที่ยว "งานเมืองทวารวดีศรีจันเสน เที่ยวติดเทรนด์ อย่างคนมีสไตล์" ณ พิพิธภัณฑ์จันเสน จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2565

             สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์  ททท.สำนักงานนครสวรรค์ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ เชิญชวนเที่ยว "งานเมืองทวารวดีศรีจันเสน เที่ยวติดเทรนด์ อย่างคนมีสไตล์" ณ พิพิธภัณฑ์จันเสน ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

          ภายในงาน พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ  

❤️การแสดงชุดระบำทวารวดี

❤️สาธิตการทอผ้าลายจันเสน

❤️สาธิตสำรับอาหารคาวหวาน บัวลอยเสน่ห์จัน

❤️ การแสดงประกอบดนตรี ชุดมนต์รักจันเสน 

❤️ สาธิตการจักสานงูขบจากใบลาน

         และพิเศษสุด สำหรับ 100 ท่านเเรกเท่านั้น‼️ รับคูปองแทนเงินสดมูลค่า 200 บาท/ท่าน  เพื่อใช้ซื้อสินค้าจากชุมชนภายในงาน  โดยมีเงื่อนไขการรับคูปอง: เพียงแชร์โพสต์นี้ พร้อมเปิดเป็นสาธารณะ จากนั้นแสดงหลักฐานการโพสต์ของท่านต่อเจ้าหน้าที่หน้างาน เพื่อรับคูปองมูลค่า 200 บาท (หมายเหตุ : จำกัด 1 ท่าน / 1 สิทธิเท่านั้น)

          สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร. 081-8742304 / 089-8036441

#เที่ยวนครสวรรค์Amazingยิ่งกว่าเดิม #239สวรรค์ใกล้กรุง #นครสวรรค์เมืองรองต้องลองไป  #จันเสน

วิลาสินี รัตนนัย “นางฟ้าฮอสกี้น้ำแข็ง” ทีมชาติไทย-นศ. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ปลื้มโครงการ“พาน้องกลับบ้าน” พร้อมเล่นกีฬา-การศึกษา เตรียมทำธุรกิจอนาคต

วิลาสินี  รัตนนัย “นางฟ้าฮอสกี้น้ำแข็ง” ทีมชาติไทย-นศ. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ปลื้มโครงการ“พาน้องกลับบ้าน” พร้อมเล่นกีฬา-การศึกษา เตรียมทำธุรกิจอนาคต


           น.ส.วิลาสินี  รัตนนัย (น้องน้ำตาล)  นักกีฬาฮอสกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย  เข้าพบและได้รับกำลังใจจาก พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  ในการเข้าร่วมพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการส่งเสริมโอกาสความเสมอภาคและเทียบเท่าทางการศึกษา “พาน้องกลับบ้าน”  ในฐานะที่ น.ส.วิลาสินี รัตนนัย เป็นคนรุ่นใหม่ที่พัฒนาตนเองทั้งด้านการศึกษาและการกีฬาฮอสกี้  โดยได้รับโอกาสทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง

         ซึ่งในปัจจุบัน น.ส.วิลาสินี รัตนนัย  ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ  สาขาการจัดการ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (มกธ.) และเป็นแบบอย่างให้แก่เยาวชนในการหมั่นเพียรด้านการศึกษาควบคู่กับการพัฒนาฝึกฝนด้านการกีฬาที่ตนเองมีความถนัดจนประสบความสำเร็จเป็นนักกืฬาฮอสกี้ทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน

           น.ส.วิลาสินี รัตนนัย  กล่าวว่า  โครงการ “พาน้องกลับบ้าน” เป็นโครงการของรัฐที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง  ซึ่งตนเองก็เคยเข้าร่วมโครงการฯ และได้รับโอกาสทางการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ  โดยการส่งเสริมให้เยาวชนหลาย ๆ คนที่อยู่นอกระบบการศึกษากลับเข้าสู่ระบบอีกครั้ง  และมีความสำคัญต่อการยกระดับการศึกษา  และคุณภาพชีวิต  ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาวิชาชีพในอนาคต

            “การได้มาศึกษาที่คณะบริหารธุรกิจ  มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี  เนื่องจากความสำเร็จในอาชีพนักกีฬาจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น  ทำให้ต้องคิดถึงอนาคต และมีแผนที่จะทำธุรกิจภายหลังจากไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนักกีฬาแล้ว  การเลือกศึกษาต่อที่นี่จึงตอบโจทย์ในทุกๆ เรื่อง และถือเป็นการวางแผนการศึกษาบ่มเพาะความพร้อมวิชาชีพการทำธุรกิจในอนาคตควบคู่กับการเล่นกีฬาในปัจจุบัน”

            ทั้งนี้ นโยบายของรัฐในโครงการดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี  โดย รศ.ดร.บังอร  เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งได้วางนโยบายในด้านการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาการศึกษาของนักศึกษาควบคู่กับการพัฒนาด้านการกีฬาทุกประเภทให้มีความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ

               “น้องน้ำตาล”  ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฮอกกี้ทีมชาติไทยและอดีตนักกีฬาสปีดสเก็ตทีมชาติไทย  และมีความสามารถพิเศษหลายด้าน  เช่น  รำไทย  เล่นกีฬาโกคาส  สเก็ตน้ำแข็ง  วอรัน ฟอลบอล  ฟุตบอล  เวคบอด  ลอเลอร์สเก็ต  กอล์ฟ  เซิฟสเก็ต  เป็นต้น  นอกจากนี้  ปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นโค้ชสอนฮอกกี้น้ำแข็งและเบสิกสเก็ต  และธุรกิจเสื้อผ้ากีฬา


          ส่วนผลงานการแข่งขันกีฬาฮอสกี้น้ำแข็งในนามทีมชาติไทย ประจำปี 2564 สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศรายการ  “Thailand Youth ice hockey championship 2021 women”  รายการ “พีทีที ฟลอร์บอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

ไทยเที่ยวไทย สบายใจได้ บินได้กับสายการบินไทยเวียตเจ็ท ปลอดภัยไร้กังวล กับ โปรโมชั่นสุดคุ้ม "Power Pack" ตั๋วทั่วไทยไปกลับเริ่ม 750 บาท เก็บไว้ใช้ได้ 5 ปี

ไทยเที่ยวไทย สบายใจได้ บินได้กับสายการบินไทยเวียตเจ็ท ปลอดภัยไร้กังวล กับ โปรโมชั่นสุดคุ้ม "Power Pack" ตั๋วทั่วไทยไปกลับเริ่ม 750 บาท เก็บไว้ใช้ได้ 5 ปี

        สายการบินไทยเวียตเจ็ทร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระตุ้นการเดินทางในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มไทยเที่ยวไทย ทั้งแบบคนเดียวเที่ยวบ่อยครั้ง และแบบเที่ยวเป็นกลุ่มทั้งเพื่อนและครอบครัว เปิดตัว “เพาเวอร์ แพ็ค (Power Pack)” ซื้อตั๋วล่วงหน้าราคาสุดคุ้ม ตอบโจทย์การเดินทางแบบยืดหยุ่น ไม่ต้องระบุวันที่หรือชื่อคนเดินทางขณะซื้อ สามารถล็อคราคาค่าตั๋วเครื่องบินได้ถึง 5 ปี เมื่อซื้อ “เพาเวอร์ แพ็ค” ผู้ซื้อจะได้รับรหัสเพื่อนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเส้นทางในประเทศ ตามจำนวนที่สั่งซื้อ โดย 1 รหัสแลกตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับ 1 ที่นั่ง

           เปิดจำหน่าย 5 รูปแบบ ได้แก่ ชุด 6 ใบ ราคา 5,500 บาท ชุด 12 ใบ ราคา 10,000 บาท ชุด 24 ใบ ราคา 19,000 บาท ชุด 50 ใบ ราคา 38,000 บาท และชุด 100 ใบ ราคา 75,000 บาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้นเพียง 750 บาท ต่อเที่ยวบินแบบไปกลับ 1 ใบ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียม ผู้ซื้อสามารถนำไปแบ่งให้ผู้เดินทางท่านอื่นได้ โดยต้องนำรหัสมายืนยันชื่อผู้เดินทางและระบุเที่ยวบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เก็บไว้ใช้ได้นาน 5 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงธันวาคม 2569 โดยมีวันที่ไม่สามารถใช้เดินทางได้ในช่วงวันหยุดเทศกาลตามที่สายการบินระบุ

          “เพาเวอร์ แพ็ค” เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17–31 มกราคม 2564 ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com โดยเปิดขายจำนวนจำกัด สามารถนำไปใช้เดินทางเส้นทางในประเทศของไทยเวียตเจ็ท ได้แก่ สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานีสายการบินแจ้งว่าหากเปิดเส้นทางใหม่เพิ่มเติม ผู้ซื้อเพาเวอร์แพ็คก็สามารถนำไปเดินทางด้วยเช่นกัน

          สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นเป็นผู้นำตลาดการบินภายในประเทศ พร้อมให้บริการผู้โดยสารด้วยความปลอดภัยในระดับสูงสุดระหว่างการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยดำเนินมาตรการทำความสะอาดและฆ่าอบเชื้อภายในอากาศยานอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานทุกคน

#ไทยเที่ยวไทย 

#เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม 

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน มอบอาชีพ “สร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน แก่ครัวเรือนยากจนจังหวัดพะเยา และเชียงราย

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน มอบอาชีพ “สร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน แก่ครัวเรือนยากจนจังหวัดพะเยา และเชียงราย




                 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดยนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ / หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมแผนกสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่มอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดพะเยาจำนวน 8 ครัวเรือน โดยมี นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และ นายอาทร พิมชะนก ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ ฤทธิ์วิวัฒน์ นายกสมาคมพะเยาและคณะกรรมการ ร่วมในพิธี ณ  บริเวณศูนย์การเรียนรู้บ้านตุ่นใต้ อ.เมือง จ.พะเยา และในวันเดียวกันนี้ มูลนิธิฯ ได้มอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนจังหวัดเชียงราย จำนวน 20 ครัวเรือน โดยมี นายอาทร พิมชะนก ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย นางอำไพ บัวระดก รักษาการแทนพัฒนาการจังหวัดเชียงราย และคณะกรรมการมูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย ร่วมในพิธี ณ บริเวณห้องประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย รวมมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ 2 จังหวัด รวม 28 ครัวเรือน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 558,800 บาท (ห้าแสนห้าหมื่นแปดพันแปดร้อยบาทถ้วน) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ ”บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย  โดยมี นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ และ นางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี เมื่อวันพุธที่ 12 มกราคม 2565




                   การดำเนินการ “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์  จะจัดทีมลงพื้นที่ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความรู้ ทักษะ และมีวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดหาอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนสร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พะเยา และเชียงราย แล้วรวม 9 จังหวัด โดยในปีงบประมาณ 2563 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย 500 ครัวเรือน งบประมาณดำเนินงานทั้งสิ้น 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) 

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ 

เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung  

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต 

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” 

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน 

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ป่อเต็กตึ๊งเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาส่งมอบไออุ่น แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ชาวเชียงราย ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร

ป่อเต็กตึ๊งเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาส่งมอบไออุ่น แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ชาวเชียงราย ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร          ...