วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง 

มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ 

รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตยจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยปรับปรุงเส้นทางเคลื่อนย้ายยานเกราะฯ

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม และ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ ร่วมในพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตยจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมูลนิธิฯ มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)  เพื่อปรับปรุงเส้นทางเคลื่อนย้ายยานเกราะฯ โดยมี พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พลตรี ณัฐพงศ์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมคณะ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัยมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี  ณ อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 2 สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568

     เมื่อเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ได้เร่งมอบหมายให้คณะกรรมการ นำทีมสาธารณภัยลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศาลากลางจังหวัด และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนั้นได้เข้ามอบเงินปลอบขวัญ พร้อมกระเช้าสุขภาพ ให้แก่ประชาชน และทหารกล้าที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมประสานงานต่อเนื่องเพื่อดำเนินการขยายการช่วยเหลือ

     รวมงบประมาณที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา สู่ทหารกล้าและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.89 ล้านบาท โดยมูลนิธิฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือตามนโยบายการดำเนินงานของแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อไป

    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน

     ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด




ททท. จับมือ Fastwork จัดกิจกรรม “100 เดียวเที่ยวได้งาน” รอบสุดท้าย

ททท. จับมือ Fastwork จัดกิจกรรม “100 เดียวเที่ยวได้งาน” รอบสุดท้าย 

เจาะคนทำงานยุคดิจิทัล กระตุ้นเที่ยวไทย–หนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น


      การทำงานไม่จำเป็นต้องผูกติดอยู่กับโต๊ะทำงานอีกต่อไป แค่มีโน้ตบุ๊ก อินเทอร์เน็ต และวิวที่ใช่นั่นคือสำนักงานของคนรุ่นใหม่เพราะวันนี้ คนทำงานจำนวนมากเลือกที่จะออกเดินทางไปพร้อมกับงานในมือ เทรนด์ Workation จึงไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่นชั่วคราว แต่มันคือ วิถีชีวิตใหม่ของกลุ่มคนทำงานอย่าง Freelancers, Digital Nomads, Remote Workers และเจ้าของกิจการยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ Work–Life Integration และในท่ามกลางกระแสดังกล่าว ประเทศไทยกลับกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ใช่ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ธรรมชาติที่สวยงาม ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล และบรรยากาศที่ช่วยรีเฟรชความคิดได้อย่างแท้จริง

เพื่อส่งเสริมเทรนด์นี้ให้ขยายผลเชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ Workation Economy อย่างต่อเนื่อง โดยได้จับมือ Fastwork จัดกิจกรรม “100 เดียวเที่ยวได้งาน” ที่เป็นกลไกการตลาดสำคัญ ในการเชื่อมโยงแนวคิด Workation เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นและสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน ผ่านการเลือกโลเคชั่นใหม่ ๆ ที่ช่วยเติมเต็มทั้งพลังใจและแรงบันดาลใจ



     จากความคุ้มค่าสู่แรงบันดาลใจของคนทำงาน กับกิจกรรม “100 เดียวเที่ยวได้งาน” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ ในการทำงาน โดยเสนอขาย Voucher ด้านการท่องเที่ยว ในราคาเพียง 100 บาท ซึ่งหลังจากการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมในรอบแรกเมื่อ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม และจะเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมรอบสุดท้าย ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทางเว็บไซต์ www.fastwork.co โดยเสนอขายสินค้าจากผู้ประกอบการทั่วไทยให้นักท่องเที่ยวได้เลือกมากมาย อาทิ ศรีพันวา, ทรีเฮาส์ วิลล่าส์, บาบา บีช คลับ หัวหิน ชะอำ ลักชัวรี พูลวิลลา บาย ศรีพันวา, ดิ อัยยะปุระ เกาะช้าง, โรงแรมซีทรู บาย เดอะ ซายน์, ริเวอร์แคว รีโซเทล, เลเจนด้า สุโขทัย รีสอร์ท, โอเอซิสสปา, สวนน้ำโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส และบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นต้น

     สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสมัครสมาชิก Fastwork และดูรายละเอียดกติการได้ที่เว็บไซต์ www.fastwork.co และจะต้อง verify ทั้งอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ให้เรียบร้อยก่อนกดซื้อสินค้า นอกจากนี้ภายใต้โครงการยังเสนอสิทธิพิเศษส่วนลด สูงสุดกว่า 80% จากสถานประกอบการชั้นนำทั่วไทย สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/workationthailand หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account: @workationthailand





วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขยายการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา มอบเงินปลอบขวัญพร้อมกระเช้าสุขภาพแก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขยายการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา 

มอบเงินปลอบขวัญพร้อมกระเช้าสุขภาพแก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บ 

ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าพบพลตรี ชยพณัฐ วิริรัตน์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองทัพไทย เพื่อเข้ามอบเงินปลอบขวัญให้แก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายละ 10,000 บาท รวมจำนวน 6 นาย พร้อมกระเช้าสุขภาพ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 69,000 บาท (หกหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา

     โดยเมื่อวันที่ 1-3 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และศาลากลางจังหวัด และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท

     รวมงบประมาณการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาแล้วทั้งสิ้น 1,569,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) โดยมูลนิธิฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือตามนโยบายการดำเนินงานของแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อไป

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน

      ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่างๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด


วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ใน "ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568"

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ใน "ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568"

ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้ผู้ยากไร้ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

        มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ มหากุศล ในประเพณีทิ้งกระจาด ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 19 กันยายน พ.ศ. 2568 ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้ผู้ยากไร้ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

 โดยผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมทำบุญได้ 2 ช่องทาง ดังนี้

1. ร่วมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง และทำบุญบริจาคข้าวสารได้ที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

2. ทำบุญผ่านเว็บไซต์ทิ้งกระจาดออนไลน์:  https://pttfny.net/newsh

       ประเพณีทิ้งกระจาด ถือได้ว่า เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมูลนิธิฯ ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกปีเป็นเวลาช้านานไม่ต่ำกว่าอายุการก่อตั้งมูลนิธิฯ กว่า 115 ปี และคาดว่าจะเป็นมูลนิธิแห่งแรกที่จัดงานทิ้งกระจาดอย่างเป็นทางการและเป็นกิจจะลักษณะ เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีผู้ใจบุญจะนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่นๆ มากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อทำบุญสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ พร้อมนำมอบองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน 

ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 มูลนิธิฯ กำหนดลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้ รวม 3 จังหวัด ได้แก่ 

- วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

- วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี

- วันที่ 19 กันยายน 2568  ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

        มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอบุญบารมีองค์หลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปี ตลอดไป ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสารกิจกรรม และการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต"

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรวมพลัง จัดทีมเจ้าหน้าที่-อาสาสมัคร เร่งแพ็กถุงยังชีพฉุกเฉิน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรวมพลัง จัดทีมเจ้าหน้าที่-อาสาสมัคร เร่งแพ็กถุงยังชีพฉุกเฉิน ณ ลานสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย 

ส่งออกเสริมทัพทีมบรรเทาสาธารณภัย ป่อเต็กตึ๊ง ที่กำลังลุยช่วยเหลือชาวน่านในพื้นที่น้ำท่วม

        ตามที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุวิภา เป็นเหตุให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดวิกฤตน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดน่าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และเสียหายเป็นจำนวนมาก 

         เมื่อบ่ายวันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถยกสูง 4x4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ เสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เร่งลงพื้นที่จังหวัดน่าน ให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในทันที  โดยมูลนิธิฯ ได้เดินทางถึงจังหวัดน่านเวลาประมาณ 01.30 น. และเร่งดำเนินการจัดตั้งกองอำนวยการและโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุก ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน พร้อมจัดทีมปฏิบัติการเร่งให้ความช่วยเหลือในทันที โดยเร่งอพยพประชาชน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วย และสัตว์เลี้ยง ออกนอกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมี หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ และในขณะนี้ มูลนิธิฯ ยังคงให้ความช่วยเหลือ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่างๆ ต่อไป


           และเช้าวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ นำทีมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และจิตอาสา “รวมพลัง ส่งต่อธารน้ำใจ สู้ภัยน้ำท่วม” เร่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งสิ่งของที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค อาทิ อาหารสำเร็จรูป ไฟฉาย ผ้าอนามัย ถุงขยะดำ ทิชชู่เปียก ทิชชูแห้ง สบู่เหลว ยากันยุง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ชุดยาสามัญประจำบ้าน บรรจุถุงมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเป็น “ถุงยังชีพฉุกเฉิน” กว่าหนึ่งพันชุด และข้าวสารอีกจำนวนหนึ่ง นำส่งสมทบให้ทีมบรรเทาสาธารณภัยนำออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ ณ บริเวณลานสำนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

          สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม  หรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org  เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ คณะพาณิชยศาสตร์ฯ มธ. มอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025”

บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ คณะพาณิชยศาสตร์ฯ มธ.

มอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025” 

เชิดชู สุดยอดผู้นำที่พร้อมนำองค์กรฝ่ามรสุมแห่งความผันผวน

        นิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานมอบรางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด “NAVIGATE THROUGH THE UNCERTAINTY ก้าวนำฝ่ามรสุมแห่งความผันผวน” เพื่อประกาศเกียรติคุณรางวัลแห่งความสำเร็จในการบริหารองค์กรของผู้บริหารสูงสุดชั้นนำของประเทศในอุตสาหกรรมต่างๆ และผู้บริหารดาวรุ่ง โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายองค์กรเข้าร่วมรับรางวัลอย่างสมเกียรติ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรแต่ละท่าน ต่างมีองค์ความรู้ ประสบการณ์และแนวทางการบริหารงานที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ละท่านผ่านวิกฤติและโอกาสที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงผู้บริโภค สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป งาน THAILAND TOP CEO OF THE YEAR  2025 ในครั้งนี้จึงได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “NAVIGATE THROUGH THE UNCERTAINTY ก้าวนำฝ่ามรสุมแห่งความผันผวน” ขึ้นเพื่อสะท้อนภาพความสามารถของผู้นำองค์กรในการบริหารจัดการในหลากหลายมิติและฝ่าฝันจนไปสู่ความสำเร็จ การมอบรางวัลในปีนี้ จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาด้านการพาณิชยศาสตร์และการบัญชีระดับชั้นนำของประเทศ และมีชื่อเสียงในระดับสากล ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025 นี้ จะเป็นรางวัลสำคัญในการเสริมสร้างกำลังใจ ให้แก่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ให้ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรให้เจริญงอกงามยั่งยืน สร้างคุณค่าให้แก่องค์กร และพนักงาน พร้อมๆ ไปกับร่วมกันดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยต่อไป”

        ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มุ่งเป็นสถาบันชั้นนำในภูมิภาค ด้วยหลักสูตรทันสมัยและงานวิจัยที่ตอบโจทย์สังคม โดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ในฐานะสถาบันการศึกษาและวิจัยด้านธุรกิจชั้นนำของไทย ได้ร่วมมือกับนิตยสาร BUSINESS+ จัดทำโครงการ “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR” เพื่อศึกษารูปแบบความสำเร็จของผู้บริหารองค์กรในหลากหลายมิติ และมอบรางวัลแก่ผู้บริหารที่โดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม โดยถือเป็นการยกย่องผู้นำที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนและความเป็นเลิศ นำมาสู่งานมอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025” ในวันนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารทุกท่าน นับเป็นความสำเร็จของผู้บริหาร ที่ได้ทุ่มเทความรู้ ความสามารถและประสบการณ์เพื่อสร้างองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับองค์กรอื่นๆ ได้ ตลอดจนนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาความยั่งยืน”

         รองศาสตราจารย์ ผศ.ดร.อรพรรณ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและเครือข่ายพันธมิตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งเป็นต้นแบบสถาบันการศึกษาด้านบัญชีและบริหารธุรกิจของไทย โดยได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก จนเป็นสถาบันแรกของไทยที่ได้สถานะ Triple Crown การจัดโครงการ “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR” ร่วมกับนิตยสาร BUSINESS+ มีเป้าหมายเพื่อศึกษารูปแบบความสำเร็จของผู้บริหารในหลากหลายมิติ ทั้งด้านผลการดำเนินงาน ลูกค้า พนักงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG และมอบรางวัลแก่ผู้บริหารที่โดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อยกย่องผู้นำที่พาองค์กรสู่ความยั่งยืน งานมอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025” ได้คัดเลือกผู้บริหารในแต่ละอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมหลากหลายมิติอย่างรอบด้าน และรางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเททั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้บริหาร ในการสร้างองค์กรที่เข้มแข็ง มีความสามารถในการแข่งขัน และมุ่งสู่ความยั่งยืนในระยะยาว”

       สำหรับการมอบรางวัล  “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2025”  จัดมอบรางวัลให้กับผู้บริหารสูงสุดขององค์กร จำนวน 10 ประเภทอุตสาหกรรม ดังนี้ 

1. อุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ

2. อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

3. อุตสาหกรรมการจัดจำหน่าย ได้แก่ คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท วายแอลจี กรุ๊ป จํากัด

4. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แก่ คุณสุภัค ลายเลิศ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แทนเจอรีน จำกัด

5. อุตสาหกรรมธนาคาร ได้แก่ คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

6. อุตสาหกรรมธุรกิจความงาม ได้แก่ คุณลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)

7. อุตสาหกรรมประกันชีวิต ได้แก่ คุณสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

8. อุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ได้แก่ ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

9. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

10. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ คุณณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี)

ประเภท Rising Star จำนวน 5 รางวัล ได้แก่

11. คุณวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ยูเอชจี

12. คุณศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด

13. คุณรสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด

14. คุณกัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมซัน รอเยล จำกัด

15. นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้อำนวยการโรงพยาบาล โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์

 






วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ สธทท. และชมรม Harley-Davidson จัดคาราวานท่องเที่ยวกิจกรรม “5 Must สองสมุทร”

ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ สธทท. และชมรม Harley-Davidson 

จัดคาราวานท่องเที่ยวกิจกรรม “5 Must สองสมุทร” 

เที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรสงคราม




      การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ ชมรม Harley-Davidson สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) บริษัท Wanderlust Tour & Travel Consulting จำกัด สมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร (ศาลเจ้าพระหยกขาว) ทีม Harley-Davidson กรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรสงคราม  พร้อมพันธมิตร ร่วมกันจัดคาราวานนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson จำนวน 50 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพสูง เดินทางท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ “5 Must สองสมุทร” ณ จังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในสองจังหวัด นัดรวมตัว ณ ปั้ม ปตท. บริษัท โชคมหาชัย จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานปล่อยคาราวานรถมอเตอร์ไซด์ Big Bike Harley-Davidson พร้อมด้วย นายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ดร.แสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมปล่อยขบวนคาราวาน ณ ศาลเจ้าพระหยกขาว จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568


      จากนั้น นายนริศ  นิรามัยวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขับรถ Harley-Davidson นำคาราวานนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson ไปยัง "ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร" และกล่าวต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson แล้วร่วมกันทำกิจกรรม CSR ปล่อยลูกปูม้า 1,040 ตัว และลูกกุ้งกุลาดำ 16,000 ตัว คืนสู่ธรรมชาติป่าชายเลน ก่อนที่จะเข้าชมสัตว์น้ำภายในอควาเรี่ยม ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร


       ชมความสวยงามของสัตว์น้ำอย่างเพลิดเพลินแล้ว คณะนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson ก็เดินทางต่อไปที่ "ศาลเจ้าพระหยกขาว" จังหวัดสมุทรสาคร เยี่ยมชมความสวยงามของศาลเจ้ารูปแบบสถาปัตยกรรมจีนที่วิจิตรบรรจง โดดเด่นด้วยซุ้มประตูทางเข้าแบบจีน ประดิษฐานสิงโตหยกขาว 1 คู่ เป็นสัญสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครอง ด้านหน้าวิหารตั้งกระถางธูปหยกขาว และมีลานพิธีกรรมพร้อมเสาเทพยดาฟ้าดิน (ที่ตื่แป้บ้อ) ศาลาทึกง และเตาเผากระดาษตามธรรมเนียมจีนตั้งเดิม เมื่อมาที่นี่แล้วก็ไม่พลาดที่สักการะไหว้องค์พระโพริสัตว์เจ้าแม่กวนอิมพันมือหยกขาว แกะสลักจากหยกขาว ขนาดความสูง 3.2 เมตร นับเป็นองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในวิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม ยังมีองค์เทพเจ้าอื่นๆ ให้สักการะได้แก่ พระสังกัจจายน์หยกขาว ที่ประดิษฐานอยู่บนแท่นบูชาด้านหน้าพระโพธิสัตว์กวนอิน, เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะหยกขาว เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และ เทพเจ้าบ่งเชียง เทพเจ้าแห่งการศึกษา ที่ประดิษฐานภายในตู้ไม้สักแกะสลักและปิดทองคำอย่างวิจิตรตามขนบจีนดั้งเดิม



ส่วนวิหารไต้ฮงกงโจวซือ ก็เป็นที่ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงโจวซือหยกขาว ที่แกะสลักจากหยกขาวหนักถึง 50 ตัน สูง 4.2 เมตร ถือเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในวิหารยังมีการประดิษฐานเทพเจ้าตี่จังง้วงหยกขาว, พระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาวปางโฉลมน้ำทิพย์ และเทพเจ้าจีนอีก 5 องค์ ซึ่งประดิษฐานเรียงรายตามธรรมเนียม


      กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรดั่งที่ตั้งใจหวัง ก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันที่ "ภัตตาคารท่าเรือ" หลังอิ่มหนำสำราญเบิกบานใจก็เดินางไปกราบสักการะ "ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร" แล้วไปกันต่อที่ "บ้านท่าฉลอม" จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี ละลานตากับสตรีทอาร์ท เดินชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น จากนั้นเปลี่ยนบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ นั่งรถสามล้อถีบและรถราง สร้างความฮือฮา เดินทางท่องเที่ยวชุมชนบ้านท่าฉลอม เยี่ยมชมบ้านเรือน วิถีชีวิตของชาวชุมชนกันอย่างถึงแก่น


      แล้วก็ได้เวลาอำลาจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางไปจังหวัดสมุทรสงคราม เข้า Check in ณ โรงแรม The Grace อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พักผ่อนเปลี่ยนอริยาบทกันพอสมควร  คณะนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson ก็เดินทางไปยัง "อุทยาน ร. 2" จังหวัดสมุทรสงคราม ชมเรือนไทยที่สวยงามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น นักท่องเที่ยวบางคนก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดไทย ถ่ายรูปกับรถ Big Bike และเรือนไทย ณ อุทยาน ร. 2  เช็คอินป็นที่ระลึก และร่วมรับประทานอาหารเย็นสำรับชาววัง Grand Mornent สัมผัสวิถีชีวิตชาววังต้นรัตนโกสินทร์ ตื่นตาตื่นใจกับการชมการแสดงโขนจากยุวศิลปิน ภายใต้ผู้ฝึกสอนจากกรมศิลปากร สนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจแล้ว ก็เดืนทางกลับทึ่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัยในบรรยากาศริมน้ำ เป็นการปิดทริปท่องเที่ยวที่สนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้สาระ และมีประโยชน์



    นายนริศ  นิรามัยวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีความยินดีต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวกลุ่ม Harley-Davidson ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง เดินทางท่องเที่ยวพร้อมใช้จ่ายเป็นอย่างมาก ด้วยการขับขี่รถ Harley-Davidson ที่เป็นเอกลักษณ์ มีสไตล์โดดเด่น สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ได้เน้นความเร็วสูง ทำให้เหมาะสมสำหรับการเดินทางขับขี่ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี



จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้อย่างสะดวก มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย มีศาลเจ้าหลายแห่งที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะ รวมถึงศาลเจ้าเปิดใหม่ เช่น   ศาลเจ้าพระหยกขาว มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีพระโพธิสัตว์กวนอิม และไต้ฮงกงโจวซือ ที่ทำจากหยกขาวทั้งองค์มีความงดงามอย่างยิ่ง รวมทั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครที่ศักดิ์สิทธิ์และอยู่คู่กับชาวสมุทรสาครมายาวนาน การทำกิจกรรม CSR ปล่อยลูกปู ลูกกุ้งให้ออกสู่ธรรมชาติที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี บ้านท่าฉลอม ก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวในสมุทรสาครอีกมากมาย อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และวัตถุดิบที่สดใหม่ ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน




    ด้าน ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์  นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า  สมาคมฯและสมาชิกสมาคมฯ โดย บริษัท Wanderlust Tour & Travel Consulting จำกัด  ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย พันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชมรม และสมาคม ในพื้นที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสองสมุทร  เปิดเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากจากนี้ ยังขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้รักการขับขี่รถ Big Bike และ Harley -Davidson ที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ มาเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง "สุขทันที..ที่เที่ยวสมุทรสาคร และสมุทรสงคราม" ถือเป็นอีกเส้นทางที่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถ มาเที่ยวกระจายรายได้เข้าถึงชุมชนได้อย่างดียิ่ง


      ส่วน นายชัยวิทย์  เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม กล่าวว่า ททท. มีหน้าที่ในการส่งเสริมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพจากประสบการณ์ท่องเที่ยวภายใต้เส้นทางท่องเที่ยวสองสมุทร (สมุทรสาคร สมุทรสงคราม) เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาท่องเที่ยวนานขึ้นด้วยการนำเสนอเรื่องราวและกิจกรรมท่องเที่ยวที่ให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและเกิดความสุขง่ายๆ ในการเดินทางใกล้ๆ ไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทั้งจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสงคราม ก็เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว สินค้า บริการ ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ สวนผลไม้ ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตัดสินใจง่าย ตามแคมเปญของ ททท. คือ เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวได้เลย 

5 Must จังหวัดสมุทรสาคร

- Must Seek ศาลเจ้าพระหยกขาว. Aquarium ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร

- Must taste อาหารทะเลอร่อยที่ภัตาาตารท่าเรือ

- Must Buy อาหารทะเลแปรรูปที่ท่าฉลอม

- Must Try ประสบการณ์นั่งรถสามล้อถีบ ที่บ้านท่าฉลอม

- Must see การไหว้พระ ไหว้เจ้า ที่ศาลเจ้าพระหยกขาว ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร

5 Must จังหวัดสมุทรสงคราม

- Must Seek เรือนไทย อุทยาน ร.2. วัดบางกุ้ง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อคง 

- Must taste สำรับอาหารชาววัง Grand moment อุทยาน ร.2

- Must Buy ส้มโอขาวใหญ่อัมพวา

- Must Try แต่งกายชุดไทยกับรถ Harley ที่อุทยาน ร.2

- Must see งานลอยกระทงกาบกล้วย สมุทรสงคราม 

#สธททพาเที่ยว

#ผู้หญิงขี่ฮาเล่ย์

#HarleyDavidsonBangkok #HarleyRama9 #PowerStation

#roserider #cc77



มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าเป็นสะพานบุญปกป้องอธิปไตยไทยต่อเนื่อง  มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ  รวมทั้งเสริมสร้างค...